วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รัฐสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายโครงการลดหย่อนภาษี เตรียมยื่นให้โอบามาลงนาม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2553 15:02:47 น.

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 277 ต่อ 148 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายโครงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 8.58 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 2 ปี หลังจากที่ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้

โดยร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามายอมประนีประนอมทำข้อตกลงกับแกนนำพรรครีพับลิกันในการขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ โดยระบุว่าทางรัฐบาลจะขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน

การทำข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ เนื่องจากสมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากได้ออกมาวิพากษ์วิจารณืว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวเอื้อประโยชน์ต่อคนร่ำรวยมากเกินไป ขณะที่สมาชิกบางคนมองว่า จะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า แม้ร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีมูลค่า 8.58 แสนล้านดอลลาร์จะสามารถกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะส่งผลให้ตัวเลขหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้ระดับที่เป็นอันตราย โดยมีการประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย จะส่งผลให้ตัวเลขหนี้ของสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 13.86 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% ของจีดีพี

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า มูดีส์อาจลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐที่ระดับ Aaa หากข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่โอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันทำร่วมกันนั้น มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยมูดีส์ได้แสดงความกังวลว่า การขยายโครงการลดหย่อนภาษีอาจส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณและตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงมากที่มูดีส์จะปรับเปลี่ยนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: