วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ Moving Forward 2 ล้านล้าน

เสียเวลาดูคลิปนี้กันหน่อยนะครับ อย่าเพิ่งอคติ ดูตัวเลข ฟังข้อมูล แล้วจะเห็นภาพรวม

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุปสเปคและราคา iPhone 5C และ iPhone 5S จาก Apple Event

iPhone 5C ครายว่าถูก เริ่มต้นที่ 16GB $549 (ประมาณ 17,568 บาท) , 32GB $649 (ไม่ถูกเลยนะเนี่ย)

เป็นเพราะบาทอ่อนด้วยเลยแพงไปใหญ่ ถ้าบาท 30บาท/ดอลลาร์ ก็ 16,470บาท

ถ้าบาท 28 ก็ 15,372 เอง อิอิ ไปอ่านรายละเอียดตามลิ้งค์เลยนะฮ้าฟฟฟฟฟววววว์

สรุปสเปคและราคา iPhone 5C และ iPhone 5S จาก Apple Event

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

ความรู้ทางการวิจัย

อ่านเรื่อง อุปมาน อนุมาน ได้ที่ >> ความรู้ทางการวิจัย 

ผมนึกถึงตอนเรียน เรามีการสรุปแบบ อนุมาน กับ อุปมาน เพราะ

เดี๋ยวนี้คนแสดงความเห็นกันได้ง่ายขึ้นเพราะมี social network จะวิจารณ์อะไรก็เป็นประเด็นตอบโต้กัน เช่นมีการพูดกันว่า 30บาทตายทุกโรค เหตุที่พูดแบบนั้นเพราะำได้ยินคนแถวบ้านบอกแค่เคสเดียว แล้วสรุปเลย ว่ารักษาไม่ดี มันเหมือนพูดโดยวิธี อุปมาน แต่ เป็นอุปมานที่ข้อมูลน้อยเกินไป ถ้าจะพูดได้ ผู้พูด ต้องไปถามมาให้หมดทุกคนที่เคยใช้บริการ 30บาทรักษาทุกโรค ถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องสุ่มตัวอย่าง ตามหลักการของวิชาสถิติ ไปถามว่า รักษาดี หรือ ไม่ดี

บางทีมีผลโพลออกมามันไม่ตรงกับความรู้สึกของเราเอง ก็บอกว่า โพลเอียง ซึ่งจริง ๆ แล้ว เราอาจจะอยู่ในกลุ่มคนส่วนน้อยก็ได้ จะรู้ว่าเอียงไม่เอียง ต้องไปอ่าน paper ฉบับเต็มที่เค้าทำวิจัยครับ เค้ามีวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างไร ตัวอย่างนั้นเพียงพอที่จะเป็นตัวแทนของประชากรหรือไม่ ตัวอย่างนั้นกระจายตัวดีหรือไม่ มีการตัด Bias ออกหรือไม่ บางคนบอกว่าเค้าไปถามกันตรงไหน ไม่เคยเห็นเลย ก็แหงล่ะ ประชากร 60 ล้านคน 77 จังหวัด เค้าสุ่มตัวแทนแค่หลักพัน (ผมเดานะ) เราคงไม่ได้เห็นการไล่แจกแบบสอบถามกันเกร่อ โพลออกมาเพื่อเสนอหรือตอบคำถามบางอย่างที่คนในสังคมสนใจ สำหรับคนธรรมดา ๆ อย่างเรา ๆ ก็แค่ รับรุ้แล้วก็ผ่านไป แต่คนที่จะใช้ข้อมูลจริง ๆ เพื่อการบริหาร เค้าคงจะต้องทำสำรวจเอง เค้าคงไม่เชื่อโพลตลาด ๆ แบบที่เป็นข่าวออกสรยุทธ์หรอกครับ


วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

จำปาดะ ขนุนถิ่นใต้ ผลไม้ไม่ธรรมดา


วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:32:05 น.

สุมิตรา จันทร์าเงา


เมื่อเดือนที่แล้วพี่สาวใจดี อาจารย์พะเยาว์ พัฒนพงศ์ แสกรุง ให้คนเอา “จำปาดะ” ผลไม้หากินยากทางภาคใต้มาฝากถึงที่บ้านสองลูก

ฉันไม่ได้ลิ้มรสชาติ จำปาดะ ขนุนถิ่นใต้มาร่วมยี่สิบปีแล้ว

รสชาติ จำปาดะ ครั้งล่าสุดที่อยู่ในความทรงจำคือ จำปาดะทอดกรอบๆ ร้อนๆ หอมจัดด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของผลไม้ที่ถูกความร้อนเผาให้กำจายกลิ่นไปทั่ว

กลิ่นขนุนสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่นก็สุดจะทนแล้ว แต่กลิ่นจำปาดะนี้เข้มข้นรุนแรงยิ่งกว่า ใครที่ไม่รักชอบเอาจริงๆ ถ้าโดนกลิ่นเข้าเต็มจมูกอาจถึงขั้นเป็นลมได้


แม้แต่ฉันซึ่งเป็นคนชอบขนุน พอเจอกลิ่นจำปาดะเข้าก็ถึงกับชะงักกึกเลยทีเดียว

น่าสังเกตว่าในพื้นที่ประเทศไทยทั้งหมด ภาคใต้ดูเหมือนจะมีผัก ผลไม้รสชาติฉุนเฉียวมากกว่าภาคอื่น โดยเฉพาะกลุ่มที่มี “กลิ่นแรงจัด” นั้น มีเยอะมาก เช่น ทุเรียน จำปาดะ สะตอ ลูกเนียง กระพังโหมต้น ทำมัง (กลิ่นแมงดา) และ หมุย หรือ หัสคุณ เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมถึงพืชผัก “รสขมจัด”  ที่มีอยู่มากมายและนิยมกินเฉพาะในหมู่ชาวใต้เท่านั้น คือ สะเดาเทียม หรือ สะเดาช้าง ซึ่งเป็นไม้ป่าโตเร็วมีเนื้อไม้สวยงามกว่าไม้ยางพารามาก และด้วยรสขมพิเศษนี่เองทำให้ปลวกและมอดแมลงทำลายเนื้อไม้ทั้งหลายไม่ชอบกัดแทะเลย ไม้สะเดาช้างจึงได้รับความนิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์อย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และทุกวันนี้ถูกส่งเสริมให้ปลูกเป็นไม้เศรษฐกิจกันไปแล้ว

สะเดาช้าง นี้ แทบไม่เป็นที่รู้จักของคนถิ่นอื่นเลย และรสขมของมันก็ไม่น่าจะมีใครหาญกล้าเอามากินเป็นผักได้ ในเมื่อมีผักพื้นบ้านชนิดอื่นมากมายให้เลือกรับประทาน

แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวและภูมิปัญญาท้องถิ่นทำให้ชาวบ้านทางภาคใต้สรรหาวิธีกินอย่างเอร็ดอร่อยมาปรนเปรอตัวเองจนได้

 หนุ่มลานสกาเล่าให้ฟังว่า สะเดาช้างนั้นจัดเป็นอาหารพิเศษประจำบ้านเขาเลยทีเดียว ลักษณะเฉพาะของมันคือ มีใบขนาดใหญ่ไม่เหมือนสะเดาบ้านแบบใบเล็กที่คนทั่วไปนิยมกัน วิธีกินก็พิสดารไม่น้อยเลยเชียว เขาจะเอาใบสะเดาช้างมาลวกให้สุกแล้วตากน้ำค้างทิ้งไว้หนึ่งคืน โดยผูกเชือกแขวนไว้ตรงชายคายาวเฟื้อยเรียงเป็นแถว ระหว่างนั้นก็ตำน้ำพริกรอเอาไว้เลย

น้ำพริกปักษ์ใต้ที่เรียกว่า “น้ำชุบ” รสเข้มและข้น แน่นด้วยเนื้อกุ้งแห้ง กะปิ พริกขี้หนูนั่นแหละ เข้ากันดีนักกับผักขมๆ อย่างสะเดาช้าง รวมทั้งผักกลิ่นแรงอื่นๆ โดยเฉพาะ สะตอ

ฉันใช้สมมุติฐานส่วนตัวเดาเอาเองว่า รสจัดจ้านของพืชผัก ผลไม้ทางภาคใต้ที่โดดเด่นกว่าภาคอื่นน่าจะมาจากความชุ่มชื้นเป็นพิเศษของสภาพภูมิอากาศที่ฝนชุกและสภาพดินที่แตกต่างจากภาคอื่นในลักษณะป่าฝนซึ่งเป็นป่าดิบชื้นนั่นเอง
แต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุนี้หรือเปล่า ที่ทำให้คนใต้มีอารมณ์ฉุนเฉียวคล้อยไปตามรสชาติอาหารการกินด้วย?!

...


ตอนที่เราได้จำปาดะมาสองลูก ตื่นเต้นกันใหญ่ ก็เลยชวนกันคุยเรื่องผลไม้ในกลุ่ม “ขนุน” จนเป็นเรื่องเป็นราว นั่นทำให้ฉันได้รู้ว่าผลไม้ในครอบครัวนี้ นอกจากขนุนซึ่งเป็นพี่ใหญ่ มีจำปาดะเป็นน้องรองหรือฝาแฝด มีสาเกเป็นญาติห่างๆ แล้ว ยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกหนึ่งหน่อ คือ “หนุนปุด”

“หนุนปุด” เป็นขนุนป่าชนิดหนึ่ง ลูกเล็กเท่าสาเกแต่ผลทรงรีไม่กลมเหมือนสาเกเสียทีเดียว เมื่อสุกเนื้อจะนิ่มเละรสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ แต่กินไม่อร่อยเพราะเป็นก้าง เนื้อเป็นใยยางๆ ยาวๆ หนืด กลืนไม่ค่อยลง เกิดอาการติดคอได้ง่าย บางคนกินเข้าไปถึงกับรากเลยก็มี หนุนปุดจึงมักเป็นอาหารของสัตว์ป่า หรือถ้าบ้านไหนมีต้นอยู่ก็จะรอให้สุกงอมแล้วเอาไปให้หมูกิน แต่ข้อดีของหนุนปุดที่มีเนื้อน้อยเมล็ดมากนี่เอง ชาวป่าซาไกและชาวบ้านริมเขาราวป่าในอดีตจึงใช้ประโยชน์ด้วยการกินเมล็ดเสียเลย

เอามาต้มกินรสมันเข้มข้นกว่าเม็ดขนุนและจำปาดะมาก ปัจจุบันเป็นของหายากไปแล้ว

เด็กชาวสวนทางภาคใต้หลายคนยังจำรสชาติมัน เข้มข้น อร่อยเฉพาะตัวของเม็ดหนุนปุดได้ดี บางคนถึงขนาดตั้งฉายามันว่า “เกาลัดของเด็กบ้านป่า”

หนุ่มลานสกาเล่าว่า เมื่อแปดปีก่อนเพื่อนคนหนึ่งของเขาเคยพบเม็ดหนุนปุดที่เกาะเกร็ด ชาวบ้านเอามาต้มนับเม็ดขาย 4 เม็ด 10 บาท แพงอย่างไม่น่าเชื่อแต่เขาดีใจมากเหมาทั้งถาดหมดไปหลายร้อย หลังจากนั้นก็เลยไปเสาะหาพันธุ์มาปลูกจนสำเร็จ คิดว่าตอนนี้คงใกล้ได้กินลูกแล้ว

สาเก นั้นเป็นขนุนสำปะลอหมายถึง ขนุนพันธุ์ที่ผลไม่มีเมล็ด ข้างในเป็นเนื้อล้วนๆ นิยมกินดิบ ผลอ่อนใช้แกงส้ม หรือ แกงคั่วกะทิ ส่วนผลแก่เนื้อแน่น เหนียว นำมาเชื่อมเป็นขนมหวานขายดิบขายดี

จำปาดะ ไม่นิยมกินดิบแบบขนุนหรือสาเก ต้องรอให้สุกอย่างเดียว เน้นกินสุกแบบผลไม้สดเพราะมีรสหวานจัดหอมหวนชุ่มปากชุ่มคอ หลายคนกินแล้วหยุดไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่กินสดต้องเอาทำเป็นของหวาน ยอดนิยมเลยก็หนีไม่พ้น จำปาดะทอด
รถเข็นจำปาดะทอดที่เคยเห็น เขาจะฉีกเปลือกอวดเนื้อจำปาดะที่เรียงยวงกันเป็นระเบียบโชว์ไว้เลย พอถึงเวลามีคนมาซื้อค่อยเด็ดเอาไปชุบแป้งที่ปรุงรสแล้วลงทอดน้ำมันร้อนจัดเดือดพล่าน พอแป้งสุกกรอบเหลืองก็ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน กินกันร้อนๆ ถ้าไม่ทันระวังลิ้นพอง ปากพองกันง่ายๆ

บางคนชอบกินเม็ดจำปาดะทอดด้วย เวลาเคี้ยวไปพร้อมกับเนื้อผลไม้นุ่มๆ ความมันเข้มของเม็ดจะช่วยเบรกรสหวานได้ดี ปัจจุบันจำปาดะทอดมีราคาแพงทีเดียว ขายกันที่ภูเก็ต 1 ยวง หรือ ยุม (ภาษาถิ่นใต้) ราคา 8 บาท อีกไม่นานก็คงจะวิ่งไปถึง 10 บาท แน่นอน

ขนมหวานอื่นที่นิยมเอาจำปาดะมาทำก็คือข้าวต้มมัดไส้จำปาดะ ทำแบบเดียวกับข้าวต้มมัดทั่วไป แต่แกะเอาเฉพาะเนื้อมาใช้เป็นไส้ในแทนกล้วย รสชาติหวาน หอมมันเข้มข้นมาก แต่ไม่ค่อยมีใครทำขาย มักเป็นขนมที่ทำกินในครัวเรือน

แกงบวดจำปาดะ ขั้นตอนการทำก็เหมือนกับแกงบวดทั่วไปทุกประการ เพียงแต่ไม่ต้องใส่น้ำตาลเยอะเพราะจำปาดะมีรสหวานจัดอยู่แล้ว ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นควรเลือกจำปาดะที่สุกพอห่ามๆ จะได้ไม่เละ

ข้าวตอกน้ำกะทิจำปาดะ อันนี้เป็นขนมโบราณที่ไม่ต้องไปหาซื้อ เพราะคงไม่มีใครทำขายเช่นเดียวกับ สังขยาเม็ดจำปา ที่หากินแสนยากเย็น

หมดจากกลุ่มของหวานแล้วก็มาถึงของคาวซึ่งนิยมปรุงจากเม็ดจำปาดะ ซึ่งน่ามีคนนิยมชมชอบกินเม็ดจำปาดะมากกว่าเนื้อมันเสียอีก

เอามาต้มให้สุกเติมเกลือให้เค็มนิดๆ กินเล่นอร่อยเหาะ เคี้ยวเพลินยิ่งกว่าเกาลัด แล้วก็ตดกันปู๊ดป๊าด...ปู๊ดป๊าด...ปู๊ดป๊าด...สนุกสนาน

ถ้ามีเม็ดจำปาดะเยอะก็ยิ่งดี ต้มไว้ทั้งหมดเลย ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วแพ็กห่อใส่ตู้เย็นไว้ในช่องฟรีซเอาไว้กินนอกฤดูกาลได้เป็นเดือนๆ ใส่แกงพุงปลา แกงคั่วกะทิ กินกับขนมจีน อร่อยนักแล

จำปาดะที่บ้านเราได้มาก็เอาเม็ดมาแกงพุงปลาใส่จิ้นนึ่ง (เนื้อน่องวัวนึ่งแบบทางภาคเหนือ) และน้ำกะทิ เผ็ดแซบกินกันอร่อยจนตาปลิ้นกันไปเลยทีเดียว

....

จำปาดะกับขนุนเป็นคู่แฝดกันก็จริงแต่ก็แตกต่างกันมากมายทั้งรูปทรงของผล ขนาด ลักษณะเปลือก (ผิวนอกเมื่อแก่จัดก็ไม่สวยเหมือนขนุน) กลิ่น (ค่อนข้างแรงน้องๆ ทุเรียน) เนื้อ (นิ่มเละไม่แข็งกรอบเหมือนขนุน) และ รสชาติ (หวานจัด มีน้ำเยอะ เส้นใยเหนียวเคี้ยวไม่ค่อยขาด)

ลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ เปลือกบาง ปอกง่าย ไม่มียวงใยเหนียวหนืดเป็นยางมาคั่นระหว่างเมล็ดเหมือนขนุน วิธีการผ่าก็แสนง่าย แค่เอามีดกรีดจากขั้วลงมาจนสุดผลแล้วใช้มือแบะออกเนื้อจำปาดะก็จะปลิ้นหลุดออกมาทั้งพวง เมื่อจับขั้วดึงทีเดียวให้เปลือกหลุดก็จะได้ยวงจำปาดะสีนวลติดกันเป็นพวงออกมาเลยค่ะ

เราไม่ทราบว่าจำปาดะที่ได้มาพันธุ์อะไร แต่เนื้อเป็นสีนวลค่อนไปทางขาว ไม่ใช่สีจำปา หรือสีเหลืองทองแบบที่เห็นกันทั่วไป ลักษณะไม่น่าจะใช่จำปาดะพื้นเมืองตามธรรมชาติที่พบมากในป่าดิบชื้น

เท่าที่ทราบประมาณเดือนสิงหาคมของทุกปี ที่ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของจำปาดะ จะมี “เทศกาลจำปาดะ” ทุกปี ชาวบ้านที่มีสวนจำปาดะต่างก็เอาผลไม้ของตัวเองออกมาอวดโฉมกันสนุกสนาน

ส่วนใหญ่จำปาดะคุณภาพดีมักมีถุงพลาสติกหุ้มห่ออย่างมิดชิด หรือไม่ก็ถูกห่อด้วยรังหรือ “โคระ” หรือ “กน” ที่ทำจากทางมะพร้าวสวยงามซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น


จำปาดะแต่ละต้นที่ดูแลกันดีๆ นั้น จะให้ลูกดกมาก แต่ชาวสวนจะต้องหุ้มหรือห่อผลเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มติดลูกเล็กๆ มิฉะนั้นกลิ่นหอมอันดึงดูดของมันจะล่อแมลงและกระรอกมาเจาะกินเสียหมด

ตั้งแต่จำปาดะควนโดนถูกโปรโมตให้มีชื่อเสียงทำให้ชาวสวนทางภาคใต้หันมาปลูกกันมากขึ้นแล้วหลังจากช่วงหนึ่งแทบจะโค่นทิ้งกันหมดสวนหันมาปลูกยางกันใหม่ เพราะเห็นว่ายางกรีดน้ำยางได้ทุกวัน ขณะที่จำปาดะมีผลปีละฤดูกาลเดียว
นอกจากควนโดนแล้ว ที่ อำเภอลานสกาก็เป็นแหล่งจำปาดะที่มีรสชาติหวานแหลม เนื้อหนา ชาวบ้านแถวนี้ มีสวนจำปาดะกันมากทีเดียวและนิยมถักรังจำปาด้วยทางมะพร้าวสอดประสานเหมือนนิ้วไขว้ กันแมลงไปวางไข่นำไปผูกคลุมผลเอาไว้ตั้งแต่ยังเล็กทำให้ได้ผลผลิตดี แต่กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ปัจจุบันผลจำปาดะมีราคาแพงขึ้นมาก จากเดิมที่เป็นไม้ไร้ค่าตอนนี้กลับกลายมาเป็นของที่สร้างรายได้ให้กับเจ้าของสวนมากกว่าผลไม้หลายชนิด

ที่สำคัญ...จำปาดะ เสน่ห์แรงก็ตรงที่เป็นผลไม้ท้องถิ่นซึ่งจะหากินได้เฉพาะในภาคใต้เท่านั้น ต้องรอคอยฤดูกาลของมันและลุ้นว่าลูกที่ได้มานั้นเมื่อเปิดเปลือกออกแล้วจะมีเนื้อข้างในมากหรือน้อยเพียงใด

บางคนจึงบอกว่า ซื้อจำปาดะก็เหมือนกับซื้อหวย ต้องลุ้นว่าจะถูกรางวัลอะไร เพราะเคยมีคนผ่าออกมาเจอเนื้อจำปาดะแค่สองสามยุมก็มี!

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ออฟฟิศพิชิตใจ

ออฟฟิศพิชิตใจ

ออฟฟิศพิชิตใจ เป็นละครซิตคอมที่ผลิตโดย เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ออกอากาศทุกวันอังคารเวลา 22.30 - 23.45 น. ทางช่องสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 กำกับการแสดงโดย สมุทร น่วมเศรษฐี , ศิณัฐ กมุกะมกุล




ดูตอนอื่น ๆ ที่นี่ มี 25 ตอน

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

เห็นยัง? ฮอนด้า แจ๊ซ 2014 คาดเปิดตัวอย่างเป็นทางการก.ย.นี้



หลังจากมีรูปหลุดของ ฮอนด้า แจ๊ซ 2014 หรือฮอนด้า ฟิท ชื่อที่เรียกในญี่ปุ่น ออกมาว่อนในโลกอินเตอร์เน็ต ล่าสุด ฮอนด้าที่ประเทศญี่ปุ่นได้เผยแพร่สเปกเบื้องต้นออกมาให้ชมก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณเดือนกันยายนนี้ และคาดว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาเดียวกับรุ่นที่จะมาเปิดในเมืองไทย ส่วนกำหนดเวลาถ้าหากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนน่าจะเป็นภายในปีหน้า

สำหรับสเปก ฮอนด้า แจ๊ซ 2014 คร่าวๆ มิติตัวถัง ยาว 3,955 มม. (รุ่นเดิมยาว 3,900 มม.) กว้าง 1,695 มม. สูง 1,525-1,550 มม. ความยาวฐานล้อ 2,530 มม. (ยาวกว่ารุ่นเดิม 30 มม.) ความสูงจากพื้นถนนถึงตัวรถ 135-145 มม. (รุ่นเดิม 145-150 มม.) 



มิติภายในห้องโดยสาร ยาว 1,935 มม. กว้าง 1,450 มม. สูง 1,260 มม. (รุ่นเดิมยาว 1,825 มม. กว้าง 1,415 มม. สูง 1,265-1,290 มม.) น้ำหนักตัวถังรุ่นปกติเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย 970-1,120 กิโลกรัม รุ่น Hybrid 1,080 ถึง 1,130 กิโลกรัม

เครื่องยนต์มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร DOHC 16 วาล์ว Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 100 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.1 กิโลกรัมเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและเกียร์ CVT อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 26 กิโลเมตรต่อลิตร

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ฉีดเชื้อเพลิงตรง ไดเร็กต์ อินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 132 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15.8 กิโลกรัมเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 21.8 กิโลเมตรต่อลิตร

รุ่นไฮบริดมาพร้อมเครื่องยนต์สันดาป LEB บล็อก DOHC 16 วาล์ว 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 110 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.7 กิโลกรัมเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า H1 กำลังสูงสุด 30 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 16.3 กิโลกรัมเมตร รวมแล้วได้กำลัง 137 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อ เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 36.4 กิโลเมตรต่อลิตร

สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรา เป็นรถซับคอมแพ็กต์ เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2001 เริ่มทำตลาดในเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2003

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

สาวกแอปเปิ้ลห้ามพลาด! ไอโฟน 5C รุ่นประหยัด เตรียมเปิดตัว 10 ก.ย. ราคา 9,000-หมื่นต้นๆ (ชมคลิป)

ใกล้จะ 10 ก.ย. แล้วนะจะเปิดจริงป่าว


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เว็บไซต์แอปเปิลแฟนไซต์ดอทคอม (www.applefansite.com) ได้เปิดเผยรูปภาพล่าสุด ที่คาดว่าน่าจะเป็นไอโฟน 5C สีดำ ซึ่งเป็นไอโฟน รุ่นประหยัด ราคาประมาณ 9,000 -10,000 บาทต้นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าไอโฟน 5C รุ่นนี้มีสีให้เลือกหลากหลาย คือ ดำ ขาว แดง เหลือง เขียว และน้ำเงิน ตัวเครื่องทำมาจากพลาสติก มีกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล หน้าจอขนาด 4 นิ้ว เป็นแบบ เรตินา ดิสเพลย์ เหมือนไอโฟน 5


อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดของไอโฟน 5C มากนัก แต่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าบริษัทแอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน5Cพร้อมกับ ไอโฟน 5S ในวันที่ 10 กันยายนนี้ (ประชาชาติธุรกิจออนไลน์)

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

ดื่ม"กาแฟ"มากเกินไป เสี่ยงตายเพิ่มขึ้น

การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มกาแฟต่อสุขภาพที่ผ่านมา แตกแขนงกันออกไปคนละทางสองทาง มีผลการศึกษาบางชิ้นที่ชี้ว่า การดื่มกาแฟส่งผลให้ความดันโลหิตสูง หรือไม่ก็ส่งผลให้การทำหน้าที่ของ อินซูลิน และ อะดรีนาลีน ในร่างกายผิดปกติไป

แต่ก็มีเหมือนกันที่ชี้ให้เห็นด้านที่เป็นประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและกระบวนการคิดและรับรู้ของผู้บริโภคก็มีเหมือนกัน

รายงานล่าสุดที่ศึกษาผลกระทบของการดื่มกาแฟ เป็นการศึกษาวิจัยของ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งเซาท์ แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา นำโดย สตีเฟน แบลร์ ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการ เมโย คลินิคึ โปรซีดดิงส์ เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงผลออกมาในทางที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นคือ แสดงให้เห็นว่า บรรดานักดื่มชนิดที่เป็นคอกาแฟ ดื่มหนักๆ มากๆ ชนิดเกินกว่า 4 ถ้วยต่อวัน หรือเกิน 28 ถ้วยต่อสัปดาห์ ยิ่งทวีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากทุกๆ สาเหตุมากขึ้นกว่าผู้ที่ดื่มน้อย หรือไม่ดื่มเลยมากถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

กรณีดังกล่าวมีผลเฉพาะในกลุ่มคอกาแฟที่มีอายุน้อย คือต่ำกว่า 55 ปี ลงมา นักดื่มที่อายุเกินกว่านั้นไม่ปรากฏผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในเชิงสถิติแต่อย่างใด

ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดนี้ เกิดจากการวิเคราะห์ประวัติส่วนตัวและประวัติด้านการแพทย์ ด้วยการให้กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 40,000 ราย อายุระหว่าง 20 ปี ถึง 87 ปี ตอบแบบสอบถามทางวิชาการ ระหว่างปี 1979-1998 หลังจากนั้นมีการติดตามผลต่อมาในช่วงระยะเวลา 17 ให้หลัง ปรากฏว่า กลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมอยู่ในโครงการศึกษาวิจัยนี้มากกว่า 2,500 คน เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุต่างๆ กัน

จากการวิเคราะห์ข้อมูล ทีมวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุน้อยกว่า มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มมากกว่า แม้ว่าจะดื่มกาแฟในปริมาณที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับมีนัยสำคัญเมื่อปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นถึงระดับ 28 ถ้วยต่อสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคกาแฟที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตจากทุกสาเหตุเพิ่มมากขึ้นถึง 56 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้น ยังพบด้วยว่า ผลกระทบจากการดื่มกาแฟจะรุนแรงกว่ามากในกลุ่มผู้ดื่มที่เป็นสุภาพสตรี ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟมากๆ แล้วมีอายุต่ำกว่า 55 ปี มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเลยถึงเท่าตัว

ทีมวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟในปริมาณมากกว่า มีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ ทำให้ ปอด และ หัวใจ มีสุขภาพไม่ดีมากกว่าตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไรในกาแฟ แม้ว่าจะเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า คาเฟอีน ในกาแฟกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตปล่อย อะดรีนาลีน ออกมามากขึ้น และมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของอินซูลิน และไปเพิ่มความดันโลหิตให้สูงขึ้นก็ตาม

นอกจากนั้น ทำไม ผู้ดื่มที่อายุต่ำกว่า 55 ปี ถึงเกิดความเสี่ยงสูงกว่า ก็ยังไม่แน่นอน แต่มีข้อบ่งชี้บางประการว่า คนที่ดื่มกาแฟจัดขณะที่อายุยังน้อยๆ นั้น มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างอื่นประกอบพร้อมกันไปด้วย อาทิ การดื่มเหล้าจัด, นอนดึก, บริโภคอาหารไม่เป็นประโยชน์ เป็นต้น

ทั้งสองกรณี ชี้ให้เห็นว่าควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนต่อไป เพราะกาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายกว้างขวางจนหลายคนมองข้ามเรื่องด้านลบไปแล้ว

http://www.matichon.co.th