วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไม่มีใครอยู่เป็นอมตะ

ฉินชื่อหวง (จิ๋นซีฮ่องเต้)ทรงสร้างสุสานกองทัพทหารดินเผาขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บพระบรมศพของพระองค์เอง แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการและสถาปัตยกรรมโบราณของจีน และศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ จักรพรรดิจีนทุกพระองค์ในประวัติศาสตร์จะมีความใฝ่ฝันสูงสุดอยู่ 2 ประการคือ 1. ยาอายุวัฒนะ ถ้าหากพระองค์ยังเสาะแสวงหาไม่ได้ สิ่งที่พระองค์จะต้องทำก็คือ 2. การสร้างมหาสุสานขนาดอันใหญ่โตมโหฬาร เพื่อเป็นที่ประทับชั่วกาลนาน
ชาวจีนในสมัยโบราณมีความเชื่อว่ามนุษย์นั้นมี 2 วิญญาณ วิญญาณแรกคือ โป (Po) ซึ่งจะมาพร้อมกับการเกิดของทารก อีกวิญญาณหนึ่งเรียกว่า ฮั่น (Han) เป็นวิญญาณที่สวรรค์ส่งมารวมกับวิญญาณแรกพร้อมกันตั้งแต่เกิด และเมื่อเจ้าของร่างตายลง วิญญาณแรกหรือโปจะคงอยู่ในร่างนั้น ส่วนฮั่นจะออกจากร่างกลับคืนสู่สวรรค์ไป ถ้าผู้ตายไม่ได้รับการฝังอย่างถูกต้องตามประเพณี โปจะอยู่อย่างไม่มีความสุข เที่ยวเร่ร่อนกลายเป็น กุย (Gui) หรือปีศาจอันชั่วร้าย ชาวจีนทุกคนจึงต้องได้รับการฝังอย่างถูกต้องตามประเพณีเมื่อถึงแก่กรรม โดยจะถูกบรรจุร่างไว้ภายในสุสานตามฐานะของผู้ตาย นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงโปรด ฯ ให้สร้างสุสานของพระองค์ทันทีตามโบราณราชประเพณี และอีกสิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงใส่พระทัยเป็นพิเศษก็คือ ทรงมีพระราชบัญชาให้ นักพรตสีฝู่ นำตัวเด็กหญิงและเด็กชายพรหมจรรย์นับพันคน ลงเรือเดินทะเล เดินทางไปทางตะวันออกเพื่อแสวงหาเกาะเผิงไหล เกาะฟางเจ้า และเกาะอิ๋งโจว ทรงเชื่อว่าเป็นดินแดนหวงห้ามของมนุษย์ เนื่องจากเป็นที่พำนักของเซียนที่จะมอบยาอายุวัฒนะให้พระองค์ทรงมีชีวิตเป็นอมตะ แต่ทว่าตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ข่าวคราวและชะตากรรมของคณะเดินทางที่พระองค์ทรงมอบหมายภารกิจเสี่ยงตายให้นั้น ไม่เคยได้ยินถึงพระกรรณของพระองค์เลยแม้แต่น้อย

ที่มา http://th.wikipedia.org

ไม่มีความคิดเห็น: