วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

เอ่อ เอ่อ คือว่าฉัน..รักเธอ The Bottom Blues

จริง ๆ จะหาเนื้อเพลงรักอ้ำอี้ง แต่มาเจอเพลงนี้ เลยลองฟังดู

อารมณ์อยากบอกรักเธอทุกวันแต่กลัวโดนด่าว่าประสาท ทีนี้พอว่างเว้นนาน ๆ อาการนึ้คงเกิด เหมือนแรก ๆ ที่ไม่กล้าพูด ทั้ง ๆ ที่ 4ปีกว่าแล้ว :)

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

พลังแห่งความเป็นเด็กในตัวคุณ

เคยอ่าน หรือ ฟังมาจากไหนสักแห่งว่าความจริงความเป็นเด็กยังแฝงอยู่ในคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วทุกคน เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะนำออกมาใช้หรือไม่อย่างไร การที่ตอนเด็กอยากได้ของเล่นแล้วไม่ได้ทำให้พอโตขึ้นทำงานและมีเงินจึงได้ซื้อรถบังคับหรือเครื่องบินบังคับมาเล่น บ้างก็อ้างว่าซื้อมาให้ลูกเล่น แต่ความจริง พ่อ หรือ แม่นั่นแหละที่อยากเล่น ก็อาจพอจะบอกได้ว่า ความอยากสนุกเหมือนเด็ก ๆ ยังอยู่กับคนเรานั่นเอง

เด็กมักจะไม่ค่อยกลัวอันตราย เพราะความที่ไม่รู้ว่าการเล่นซนบางอย่างอาจจะทำให้เกิดอันตราย เด็กจึงไม่กลัว และกล้าลุย ผู้ใหญ่บางคนกลัวสารพัดจึงไม่กล้าทำอะไรเลย ทั้งที่บางทีคนนั้นมีความสามารถเต็มเปี่ยม แต่กลัวไปหมด ความสามารถของคนนั้นจึงถูกซ่อนอยู่ด้านหลังความกลัวต่อไป

ดึงเอาพลังแห่งความเป็นเด็กของคุณออกมาใช้สิ เล่นซน กล้าลอง สร้างสรรค์ ภายใต้ความรอบคอบของผู้ใหญ่ งานไหนก็ลุย ลองทำ สิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตคุณก็ได้

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องสมมติ

เรื่องสมมตินี่มันร้ายนัก คนเราบางที่ก็สมมติสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นมา แล้วก็กลัวสิ่งที่สมมติขึ้นนั้นซะเอง ในยุคโบราณดึกดำบรรพ์ มนุษย์สมมติผีหรือเทพขึ้นมาแทนสิ่งที่อธิบายไม่ได้ เช่นเทพแห่งฟ้าผ่า เทพแห่งไฟ ปีศาจแห้่งความชั่วร้าย แม่มด ต่อมาเมื่อมีพุทธศาสนา จึงได้มีการอธิบายสิ่งต่าง ๆ เป็นเหตุเป็นผลขึ้น(ผมเข้าใจเอาเองนะ) สิ่งร้ายในชีวิตไม่ได้เกิดจากปีศาจดลบันดาล แต่เกิดจาก กรรม ความจริง กรรม ไม่ใช่สิ่งลี้ลับอะไร กรรม คือการกระทำนั่นเอง การกระทำไม่ว่าดี หรือ ไม่ดี ย่อมส่งผลต่อไปในอนาคต ทั้งผู้ที่กระทำกรรมนั้น และคน, สัตว์, สิ่งของ รอบข้าง เช่น ไปตบหน้าคนอื่น ผลคือ คนที่ถูกตบก็เจ็บ และเราอาจถูกต่อยคืน หรืออะไรทำนองนั้น มันส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอย่างไม่รู้จบ ผลกระทบนั้นอาจจะเบาบางบ้าง รุนแรงบ้าง ขึ้นอยู่กับว่า ใครกระทำ ทำอะไร ทำกับใคร

น่าแปลกที่2500ปีผ่านไป ความคิดของคนก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นไปกว่าคนยุคก่อนพุทธกาล ยังมีการสมมติสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาอธิบายสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่ บางทีก็เพื่อหลอกลวง จ้องจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ไม่รู้ว่าคนที่สมมติขึ้นมาหลอกคนอื่นจะกลัว กรรม บ้างไม๊

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

วันก่อนครับ

A: วันนี้ครับ
B: เฮ้ย ๆๆๆ เดี๋ยวอีกสองสามวันค่อยเล่าได้ป่ะ
A: ทำไมครับไมว่างเหรอ
B: ป่าว อีกสองสามวัน คุณจะได้เริ่มต้นว่า "วันก่อนครับ" ไงครับ
A: อ๋อ ๆๆๆ ได้ ๆ

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ความคิดเห็นทางการเมืองของพ่อผมเอง

พ่อมักจะฟังข่าวจากวิทยุตอนเช้า ๆ สมัยก่อนมีรายการชื่อ คุยโขม่งหกโมงเช้า ของลุงดุ่ย ณ บางน้อย ชื่อจริง อำนาจ สอนอิ่มสาตร์ ผมก็จะได้ฟังไปด้วย ยังเด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก รู้แต่ พ่อชอบฟังลุงสมัคร ชอบสิ่งที่ลุงหมัก คิด และ พูด แล้วก็บ่นเสียดายว่า ไม่ค่อยได้มีโอกาสทำงาน พ่อมักพูดเสมอว่า

  • ไม่มีใครดีไปกว่าใคร เวลาเลือกตั้งก็เลือกคนที่คิดว่าเลวน้อยที่สุด
  • ใครจะได้เป็นนายกฯ เราก็ต้องซื้อข้าวกินเองอยู่ดี
ตอนนั้นเวลาผมมองไปที่นักการเมืองก็เทา ๆ ไม่มีใครดีไปกว่าใครจริง ๆ ความขัดแย้งมันก็ไม่ได้แรงเท่าทุกวันนี้ มันเหมือนประชาชนก็อยู่ต่างหากจากการเมือง ใครจะเป็นอะไรก็เป็นไป เลือกตั้งทีก็ว่ากันที รัฐประหารมั่งกบฏมั่ง เราก็ไม่รู้เรื่องประชาชนไม่เกี่ยว ความเห็นส่วนตัวของเด็กคนนึงน่ะครับ

ตอนนี้เหมือนคนถูกผลักให้เลือกข้าง ขัดแย้งกันรุนแรง ความเชื่อต่าง ๆ ถูกยัดใส่หัวและชี้หน้าด่ากัน บางทีก็ไม่พิจารณาให้ดี ว่ามันจริงไม๊ อธิบายก็ไม่ค่อยฟัง และมักจะเปลี่ยนไปด่าเรื่องอื่นต่อ

บั้นปลายของชีวิตพ่อชอบทักษิณมาก นโยบายต่าง ๆ ถูกเอามาปฏิบัติ พ่อจะสังเกตรอบ ๆ บ้าน พ่อบอกว่าพวกเด็กแว๊นลดลงเยอะ พวกพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะเกี่ยวกับยาเสพติดก็หายไป พ่อเริ่มป่วยตอนต้นปี49 ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าพ่อรู้เรื่องที่ทักษิณถูกตั้งม๊อบไล่ไม๊ ตอนถูกรัฐประหารผมก็บอกแกนะ แต่แกรับรู้แค่ไหนไม่มั่นใจ แต่ที่ผมแน่ใจอย่างนึงคือ ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ แกเป็นเสื้อแดงชัวร์ อิอิ เสียดายแทนพ่ออยู่อย่างนึงคือ พ่อไม่ทันได้เห็นลุงหมักเป็นนายกฯ คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน แกจะได้ไม่ต้องเห็นเรื่องแปลกประหลาด นายกฯทำกับข้าวออกทีวีเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ต้องหลุดจากตำแหน่งกันเลยทีเดียว

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

อาทิตย์ละครั้ง+กีตาร์งั่งๆ

น้องคนนี้กำลังดังมาก ๆ เลย ในเฟสบุ๊ค หยิบมาเพลงนึงเพลงนี้น้องเค้าเล่นกีต้าร์เองด้วย ลองฟังดูนะครับ น้อง Nammon

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

กรณีศึกษา การวางตัวของบอสเมื่อดาราในสังกัดมีข่าวฉาว

จั่วหัวให้มันเท่ห์ ๆ ว่ากรณีศึกษา แต่ความจริงเขียนอะไรเป็นทางการไม่ค่อยเป็นหรอก เพียงแต่นึกถึงกรณีข่าวด้านลบของศิลปินเพลง 2 กรณี บังเอิญ2กรณีนี้เกิดกับศิลปินคนละค่ายกัน และเป็น 2 ค่ายยักษ์ใหญ่เมืองไทยทั้งคู๋ ขออนุญาติเอ่ยชื่อตรง ๆ แล้วกันนะครับ คงไม่ได้ทำให้เจ้าตัวเสียหาย เพราะว่ามีประเด็นนิดเดียวเกี่ยวกับการดำเนินการของบอส นั่นคือ กรณีของคุณฟิล์ม กับ กรณีของคุณเสก

กรณีของบอสอาร์เอสคงต้องยอมรับว่าเสียรังวัดไปบ้างกับท่าทีที่แสดงออกมากรณีของฟิล์ม ยังโชคดีที่สามารถจบเรื่องลงไปได้แม้ว่าสังคมจะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม ผิดกับค่ายแกรมมี่ ออกมาพูดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงาน ผมมองว่าเหตุผลมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเลิกสัญญากับพี่เสก แกรมมี่ไม่ตอบโต้กรณีที่เสกด่ากราดบนเวที ถือว่าทำได้ดี ตอนนี้ได้ข่าวว่าพี่เสกไปรักษาตัว คือคนพลาดไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้ารักษาตัวจนหาย คนก็คงให้อภัยได้ถ้าผลงานใหม่ออกมาดี คงมีตำหนิบ้าง แต่ก็คงพออยู๋ได้