วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดทองคำสัปดาห์แรกเดือนก.พ.



08 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 09:21 น.


ภาวะตลาดทองคำสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. 2553 ทองคำตกรุนแรงเหตุนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นค่าเงินยูโร  หันครองเงินดอลล่าร์แทน
สภาพตลาดทองคำในสัปดาห์แรกของเดือนก.พ. 2553 ที่ผ่านมา (วันที่ 1-6 ก.พ.) เปิดตลาดต้นสัปดาห์ดูท่าทางจะสดใสราคาดีดขึ้นในวัน 1,125 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ในช่วงบ่ายวันพุธทำให้เกิดกระแสการช้อนซื้อตามทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกครั้งจากการที่ทองคำตกลงอย่างรุนแรงในคืนวันพุธในตลาด COMEX ประมาณ 20 เหรียญสหรัฐ และตกต่อในวันพฤหัสบดีอีกประมาณ 48 เหรียญสหรัฐ จนปิดตลาดในคืนวันศุกร์ที่ระดับ 1,066 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ข่าวที่สำคัญคือการที่ประเทศทางฝั่งยุโรปมีหนี้สาธารณะสูงจนไปสร้างผลกระทบต่อค่าเงินยูโรให้ตกลงและขาดความเชื่อมั่น นักลงทุนจึงหันไปถือครองดอลลาร์สหรัฐในฐานะ Safe Heaven ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร โดยปรับตัวลดลงมากกว่า 300 pip ไปสู่ระดับ 1.3685 เหรียญสหรัฐ/ยูโรโดยประมาณ ผสมกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาโดยภาพรวมบ่งชี้ไปในทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ร่วมกับการที่โอบามาพยายามใช้นโยบายการคลังบีบหรือลดการปล่อยสินเชื่อในภาคการธนาคารทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดแรงเทขายทองคำเข้ามาโดยตลอด รวมทั้ง SPDR ในสัปดาห์ที่แล้วก็ขายทองคำมากกว่า 7 ตัน เหลือถือครองประมาณ 1,106 ตันเศษ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำมี Technical Rebound ใน 3 วันแรกจาก 1,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ไปสู่ระดับ 1,125 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และกลับตกลงมาเกิด New Low ที่ระดับ 1,045 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ในคืนวันศุกร์ก่อนที่จะมี Rebound เล็กน้อยมาปิดที่ระดับ 1066 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ในเชิง Technique ตามที่เราได้กล่าวแล้วว่าถ้าราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 1,120 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แล้วสามารถยืนได้ ก็จะกลับตกลงมาอย่างรุนแรง แนวโน้มโดยทั่วไปเป็นทิศทางขาลงอย่าง
ชัดเจน โดย Oscillator ทุกตัวเป็นสัญญาณให้ขาย แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,020 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยแนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,090 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งอาจจะมี Technical Rebound ขึ้นไปได้บ้าง และในเชิงเทคนิคในค่าเงินยูโรเองก็ยังอยู่ในทิศทางขาลงต่อเนื่อง และเกิด New Low เช่นเดียวกันกับทองคำที่เกิด New Low ในช่วง 3 เดือน
ทำกำไรได้อย่างไรถ้าทองคำตก
ในปัจจุบันนักลงทุนในทองคำมีทางเลือกอีกอันหนึ่งที่เรียกว่า Gold Futures ซึ่งท่านสามารถทำกำไรได้ในภาวะขาลง โดยที่ท่านไม่จำเป็นจะต้องถือ
ครองทองคำไว้ก่อน ซึ่งต่างจากนักลงทุนทองคำแท่งที่จะต้องซื้อก่อนแล้วต้องรอราคาขึ้นถึงจะขายได้ หรือแม้กระทั่งนักลงทุนที่ถือครองทองคำอยู่เมื่อ
ต้นสัปดาห์ก็จะสามารถลดภาวะขาดทุนได้โดยใช้Gold Futures เป็นตัวช่วยที่เรียกว่าการทำ Hedging แต่เรายังพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการลงทุนแบบเดิมและยังไม่ได้ศึกษาถึงโอกาสในการใช้เครื่องมือทางการเงินอันใหม่ในตลาดอนุพันธ์ที่เรียกว่า Gold Futures จึงทำให้เกิดภาวะการขาดทุนอย่างมากในนักลงทุน Gold Futures
โดยสรุปจึงอยากจะแนะนำให้ท่านศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีการวิเคราะห์ราคาทองคำและ Chart |pattern ซึ่งจะดูได้จากระบบ Graph ของราคาทองคำ ซึ่งในเว็บไซต์ www.mtsgold.co.th ก็มีให้ดูเพื่อการศึกษาให้เข้าใจถึงแนวรับแนวต้านที่เกิดขึ้น มันจะเป็นประโยชน์กับท่านอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีเหตุการณ์เหมือนช่วง 2 วันที่ผ่านมา เสียเวลาศึกษาเพียงน้อยนิดจะช่วยรักษาเงินท่านเป็นล้านบาทได้ ซึ่งท่านสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองผ่านระบบ Website ของเรา หรือสัมมนาเพิ่มเติมกับทางบริษัท MTS Gold Futures

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 4 ก.พ.

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 4 ก.พ. ส่วนใหญ่ดัชนีอ่อนตัวในแดนลบ ตามแรงเทขายทำกำไรและตามตลาดต่างประเทศที่ร่วงลง โดยระหว่าง วันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 708.51 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 702.01 จุด จนมาปิดตลาดที่ 702.52 จุด ลดลง 5.13 จุด หรือ 0.72% ซื้อขาย 14,380.59 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 212.42 จุด ลดลง 0.48 จุด ซื้อขาย 186.15 ล้านบาท
   
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผอ.อาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า ในช่วงเช้าดัชนีหุ้นไทยบวกได้บ้างเล็กน้อย จากนั้นเริ่มปรับฐานลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายน้อย เนื่องจากนักลงทุนชะลอลงทุน หลังตลาดหุ้นทั้งยุโรปและภูมิภาคปรับลดลง เป็นผลจากความกังวลเรื่องเสถียรภาพการคลังของกรีซ และโปรตุเกส รวมถึงการที่มูดี้ส์ อาจปรับอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐใหม่
   
แนวโน้มดัชนีน่าจะปรับตัวลงต่อ หากดัชนีดาวโจนส์ปิดลงแรง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเรื่องมูดี้ส์ต่อ อีกทั้งดัชนีได้ปรับขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้ามามากแล้ว รวมถึงเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์จึงไม่น่าจะถือหุ้นข้ามสัปดาห์ ประเมินแนวรับแรกที่ 700 จุด หากไม่สามารถยืนได้จะมีแนวรับถัดไปที่ 690-695 จุด และแนวต้าน 705-710 จุด กลยุทธ์แนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ในกลุ่มธนาคาร.



http://dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=314&contentID=46848