วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

“พระราชาโป๊”

นิทานเรื่อง“พระราชาโป๊” นี้ก๊อบมาจาก thaigold.info คนที่เล่าเค้าต้องการสื่อว่า ทุกคนกลัวถูกหาว่าโง่ก็เลยปิดบังสิ่งที่ตัวเองคิดว่าจะทำให้คนอื่นด่าว่าโง่ ปิดบังสิ่งที่ตัวเองมองไม่เห็น หรือ สิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพื่อจะได้ฉลาด ๆ เหมือน ๆ คนอื่น ในแง่ของการลงทุน เค้าหมายถึงทุกคนปิดหูปิดตา แล้วมองว่าสหรัฐอเมริกามั่นคง จนกระทั่งมีใครคนนึงตะโกนขึ้นว่า มันกลวง ถึงได้หูตาสว่างกัน แต่อ่านไป ๆ ผมกลับนึกถึงอีกเรื่อง สักสี่ห้าปีก่อนมีคนพูดว่ารู้ทันทักษิณ คนคิดว่า ทักษิณฉลาดมากแล้ว ถ้ารู้ทันทักษิณแปลว่า โค ตะ ระ ฉลาด ก็เลยพากันรู้ทันทักษิณกันใหญ่ เพราะกลัวว่า คนในสังคมจะชี้หน้าแล้วด่าว่า "เอ็งมันโง่กว่าทักษิณ" วันนึงถึงได้รู้ว่า คนรู้ทันทักษิณทั้งหลาย มันโม้ เอิ้กส์ ๆ


กาลครั้งหนึ่งมีพระราชาที่ “วันๆไม่ทำอะไร เอาแต่แต่งตัว”
ทรงลุ่มหลงแต่เรื่องเสื้อผ้า อาภรณ์ เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย
งานราษฎร์ งานหลวง ไม่สนใจเอาแต่แฟชั่น

ชื่อเสีย(ง) ในเรื่องนี้ รู้กันไปทั่ว ทั้งเมืองนอก เมืองใน
แขกไปใครมาก็สรรหามาถวายเพราะรู้ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงโปรดปรานที่สุดคือเรื่องนี้

จนกระทั่งมีชายสองคนจากแดนไกล อ้างตัวว่าเป็น “สุดยอด ดีไซเนอร์แห่งยุค”
มาขอพบพระราชา เพื่อรังสรรค์ผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดพิเศษให้
พอพระราชาทราบเรื่องเข้าแหม...ไอ้เรื่องนี้มันของชอบอยู่แล้ว

จึงอนุญาตให้เข้าเฝ้า และเลี้ยงต้อนรับอย่างดี
สุดยอดดีไซเนอร์ กล่าวอ้างว่า

“เครื่องแต่งกายที่จะตัดเย็บให้ในครั้งนี้ เป็นเครื่องแต่งกายวิเศษ แม้จะมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
สวมใส่สบาย แต่เฉพาะ ผู้ฉลาดและมีสติปัญญาอันหลักแหลมเท่านั้นถึงจะมองมันเห็น”


พระราชาได้ยินดังนั้น ยิ่งเกิดความอยากได้ เพราะในบรรดาคอลเล็คชั่นที่ตนเองมีนั้น ไม่มีอะไรประเภทนี้มาก่อน
จึงจัดห้องทำงานพิเศษพร้อมเรือนรับรองเป็นส่วนตัวให้กับ สองดีไซเนอร์ หลังจากนั้นก็รอด้วยใจที่จดจ่อ

สองดีไซเนอร์เมื่อได้งาน ก็ขอวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อใช้ในการตัดเย็บทันที ไม่ว่าจะเป็น
ผ้าไหมเกรดเอ เพชรพลอยประดับ แก้วแหวน ทองคำ สารพัด 

เมื่อได้ของที่ต้องการ ก็เนียนทำเป็นตัดเย็บเสื้อผ้าง่วนอยู่ในห้องทำงาน
แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

เก็บเอาวัตุดิบอย่างดีที่ได้มาใส่กระเป๋า กลับบ้าน
วันรุ่งขึ้นก็ขอใหม่อ้างว่าต้องใช้ในการทำงาน แล้วก็เก็บกลับบ้านเหมือนเดิม

ผ่านไปซักพัก พระราชาร้อนใจ อยากจะรู้ความคืบหน้าของเสื้อผ้าชุดนี้ แต่เกรงว่าจะไม่เซอร์ไพรส์
เลยส่งขุนนางคนสนิทให้ไปตรวจดูว่างานไปถึงไหนแล้ว
เมื่อขุนนางไปตรวจดู ดีไซเนอร์จอมลวงโลกทั้งสองก็จัดแจง
นำเสื้อผ้าล่องหนมานำเสนอให้ดูพร้อมทั้งพร่ำพรรณาถึงความสวยงามของมัน

คนหนึ่งโม้ อีกคนก็เออออตามไปด้วยพร้อมทั้งถามขุนนางคนนั้นว่า

ท่านเห็นด้วยมั๊ย ? สวยมั๊ย ?

ขุนนางได้ได้แต่คิดในใจ “ไม่เห็นอะไรเลย ซักกะนิด??”
แต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะรู้มาว่า เสื้อผ้าพิเศษชุดนี้เฉพาะคนฉลาดเท่านั้นถึงจะสามารถมองเห็นได้
หากเราบอกไม่เห็นในขณะที่สองคนนี้มันเห็น แถมชมกันใหญ่เลยว่าสวยอย่างนั้นอย่างนี้
เรามิวายโง่ อยู่คนเดียวอย่างนั้นหรือ ??

คิดได้ดังนี้ จึงตัดสินใจ ยื่นมือออกไปรับเสื้อผ้าชุดนั้นมาทำทีเป็นถือไว้ ค่อยๆลูบไล้ (อากาศ) แล้วพูดออกไปว่า


"เสื้อผ้าชุดนี้ช่างสวยงามและวิเศษจริงแท้ รูปแบบสวยงาม เนื้อผ้านุ่มลื่น บางเบา
ใครได้สวมใส่คงจะสบายตัวและสง่างามหาที่เปรียบมิได้" 


ซึ่งแน่นอนว่าสองดีไซเนอร์ก็ไม่วายที่จะเออออ เห็นดีเห็นงามไปด้วย....
เมื่อกลับมาถึงพระราชวัง ขุนนางก็รายงานต่อพระราชาถึงความวิจิตรบรรจงของเสื้อผ้าชุดนี้
ทำเอาซะพระราชาเป็นปลื้มปูนบำเหน็จรางวัลให้ดีไซเนอร์เพิ่ม ในห้องทำงานก็ปั่นไฟสว่างเหมือนทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ
พระราชาใจก็รอให้ถึงวันที่จะได้ใส่
พอใกล้เสร็จ พระราชาอยากจะเช็คให้แน่ใจจึงได้ส่ง ขุนนางคนสนิทอีกคนนึงไปตรวจดู
พอไปถึงห้องทำงานก็สูตรเดิมเลย....
ดีไซเนอร์ นำเสื้อผ้าล่องหนมาให้ยลโฉม พร้อมกับสอพลอว่า “มันเจิดมาก” แล้วก็ถามว่า

ท่านเห็นด้วยมั๊ย ? สวยมั๊ย ?

ขุนนางคิดในใจ
อะไรกันเนี่ย? ล้อกันเล่นรึเปล่า เราเองก็ออกจะฉลาดระดับประเทศ ทำไมไม่เห็นอะไรเลย ? :wacko: :wacko:
แต่ดีไซเนอร์สองคนนี้รวมขุนนางคนก่อน ยังมองเห็น หากเป็นเช่นนี้เราก็โง่ ฉลาดสู้ขุนนางคนก่อนไม่ได้น่ะสิ
คิดได้ดังนี้ จึงพูดออกไปว่า

“อืมม....งานตัดเย็บของท่านมันเจิดจริงๆ”

พร้อมกลับไปรายงานความเจิดให้พระราชาฟัง


และแล้ววันนั้นก็มาถึง ....
วันที่พระราชาจะได้สวมใส่ชุดวิเศษชุดนี้ รอมานานจะใส่ทั้งที ธรรมดาได้ที่ไหน
พระราชาจึงจัดงานพิธีเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งจะใส่โชว์ เดินอวด ไปในเมืองถือเป็นการพบปะประชาชนไปในตัว
ชุดวิเศษถูกพับใส่กล่องอย่างหรูสวยงาม นำมายังพระราชวัง

เมื่อเปิดกล่องออกมา พระราชาก็ “ทรงพระตะลึง”!!!!
ไม่เห็นมีอะไรเลย ???? ยังมิทันที่จะได้ตรัสอะไรออกไป สองดีไซเนอร์ก็จัดแจง
ถอดเสื้อผ้าของพระราชาออกพร้อมกับ (ทำท่า ทำทาง) สวมใส่ชุดใหม่ให้กับพระองค์
ขณะใส่ก็พูดไปด้วยว่า โอ้....พอดิบ พอดี เป๊ะมากๆ สวยสง่า คู่ควรกับพระองค์เสียนี่กระไร 

อะไร ??? ยังไง ??? นี่สรุปเราโง่กว่าไอ้ขุนนางสองคนก่อนอย่างนั้นหรือ ???

กลั้นใจพูดออกไปว่า “อืม...สวยถูกใจเราจริงๆ” :wacko: :wacko:

ข้าราชบริพารในท้องพระโรงเห็นเข้าก็อึ้ง แต่ไม่อยากเป็นคนโง่หรือแตกต่าง ก็พากันแซ่ซ้องสรรเสริญ เดินตาม พร้อมชื่นชมชุดไม่ขาดปาก
เดินไปตามท้องถนน ชาวบ้านชาวช่องเห็นเข้า ก็พากันโห่ร้อง ป้อยอ ชุดใหม่ของพระราชา
เพราะว่าใครๆเค้าก็เห็นแล้วก็ทำกันไม่อยากแตกต่างและไม่อยากเป็นคนโง่....
จนกระทั่งมีเด็กคนนึงผ่านมาเห็นเข้า ด้วยความไร้เดียงสาจึงพูดออกไปว่า

“พระราชาโป๊”

เท่านั้นแหละประชาชนโดยทั่วไปจึงได้ฉุกคิด และเริ่มซุบซิบๆกัน ว่าก็จริงของเด็กมัน
ปากต่อปากต่างพูดกัน ความจริงจึงได้ปรากฎว่า อ้าวว...ไม่เห็นเหมือนกันเหรอ?
สถาณะการณ์เปลี่ยนเมื่อความจริงปรากฎ ทุกคนได้ตาสว่าง
แต่ถึงตอนนั้น สองดีไซเนอร์ ก็หนีออกนอกเมืองไปพร้อมกับทรัพย์สมบัติไกลแสนไกลแล้ว......

ไม่มีความคิดเห็น: