วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

คงไม่ค่อยมีใครไม่เคยได้ยิน คำว่า "ไม่ใช่พระอิฐพระปูน" เราใช้วลีนี้ในความหมายทะลึ่ง เช่นเวลามีสาว ๆ มายั่วแล้วทนไม่ไหว ทำอะไรมิดีมิร้ายไป มักจะมากล่าวในภายหลังเกิดเหตุว่า "แหม ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ" ซึ่งการใช้ในลักษณะนี้ไม่หมิ่นศาสนา!!!!!! เพราะเราใช้คำแบบนี้มานานแล้ว โบราณว่ามา มันเป็นสำนวน คืออะไรที่ว่ามาตั้งแต่โบราณจะไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ คะนอง เอารูปพระอิฐพระปูนมาตัดต่อ ทำนองล้อเล่น จะกลายเป็นเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอนทันที

เรามักจะรับไม่ได้ในประเด็นอ่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยที่ไม่ได้สนใจแก่นแท้ของศาสนาเสมอ สนใจอภินิหารของศาสนา ทั้งที่ความจริงศาสนาสอนให้อยู่ในโลกอย่างไรให้เป็น "   "ปกติ"สุข  " ต่างหาก

นับวันรายละเอียดของพิธีกรรมจะมากขึ้น มากขึ้นจนจำไม่หวาดไม่ไหว แล้วยิ่งคนไทยที่รับเอาความเชื่อทุกชนิดเข้ามาเป็นของเรา กลายเป็นว่าเราต้องทำอะไรเปลือก ๆ เยอะเลย เช่น ต้องไหว้ตรุษจีน ต้องรดน้ำสงกรานต์ ต้องไหว้ราหู ไหว้ไฉ่ซิ่งเอี้ย ไหว้บั้งไฟพญานาค ทำพิธีพราหมณ์บวงสรวงต่าง ๆ พระศิวะ พระพรหม พระภูมิเจ้าที่ ทำบุญเก้าวัด สวดมนต์ข้ามปี

สรุปคือหัดปล่อยวางซะบ้าง อะไรที่มันหนัก ๆ ก็วางลงซะ หันมาฝึกจิตแทน และ ลดการเบียดเบียนผู้คน สูบบุหรี่ก็อย่าพ่นควันใส่หน้าชาวบ้าน เกรงใจผู้ป่วยคนอื่นเวลาไปเยี่ยมไข้ จะกินเหล้าเปิดเพลงก็รู้เวลาบ้างว่าตอนไหนควรเลิกได้แล้ว คนอื่นเค้านอนกัน ให้ทางรถที่จะเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลด้วยคนเค้ารีบจะพาญาติไปตรวจ ทำอย่างนี้ได้บุญตรงสุขใจ ไม่ต้องรอชาติหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น: