เมื่อ 14มค54 ทองขึ้นไปสุดที่ 1377 ลงสุดที่ 1354 เปิด 1373 มาปิดที่ 1361 รวมปิดลบ -12
ราคาตอนนี้ 1361 หรือ 19700/19800 ราคาลง 150 บาทจากเมื่อวาน , /ค่าดอล 79.32 ราคาขึ้นจากเมื่อวาน 79.11
เงินดอลแข็ง ส่งผลเงินบาทอ่อน วันนี้ประมาณ 30.49 บาทต่อดอล/ ค่ายูโรต่อดอล 1.3309 ขึ้นจาก 1.3360
/ น้ำมัน 91.17 ขึ้นจากเมื่อวาน 91.11 / เวลา 2.30 pm
แนวต้าน 1362.7 1365.5 1368.2 / 1391.2 แนวรับ 1345.3 1342.5 1339.8 / 1316.8
กราฟทองรายวัน slow sto.18, RSI 41, Macd ลง, moving average ตัดลง
โดยรวมแนวโน้มกลับมาลง ถ้าเอา MA เป็นหลักโดยมีจุดหมายการขึ้นวันนี้ที่ 1362-1367 ตามกราฟราย 1 และ 4 ชม
แล้วน่าจะลงต่อไปที่ 1349-1346 ตามแนวรับ
กราฟยูโรต่อดอล Eur/Usd1.3319 ขึ้นจากเมื่อวาน 1.3371 , slow sto.82, RSI 55,
Macd ขึ้น ,moving average ตัดขึ้น โดยรวมทิศทางยังขึ้น มีจุดหมายที่ 1.3462 แต่จุดหมายนี้ขึ้นถึงแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
และจากกราฟราย 1และ 4 ชม ที่ขึ้นสุดแล้วกําลังลง ทําให้วันนี้อาจรีบาวร์ขึ้นมาได้แค่ 1.3387 แล้วน่าลงต่อไปที่ 1.3250
กราฟนํามัน เดือน มค54
แนวต้าน 95.03 96.01 96.99 / 105.30 แนวรับ 88.69 87.71 86.73 / 78.42
สรุป
ทองวันนี้ทิศทางเปลี่ยนเป็นลง ถ้าเอาเส้น moving average เป็นหลัก โดยมีจุดหมายการขึ้นวันนี้ที่ 1362-1368 แล้วน่าจะลงมาที่ 1340-1346
ส่วนกราฟรายสัปดาห์เส้น moving average เริ่มตัดลงแล้ว ทําให้โอกาสที่ทองจะลงต่อเนื่องไปอีก 2-3 สัปดาห์ มีโอกาสสูง
โดยมีจุดหมาย 1342, 1320, 1280
แกปที่ 1358-1359 ลงมาปิดเรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 14มค54 ใช้เวลา 5วัน การติดตามชมแกปที่ 1358-1359 ก็จบลง
แต่เกิดแกปใหม่ที่ 1375 เป็นแกปขาลง ทําให้น่าจะเกิด New Low จุดตําที่ตํากว่าครั้งก่อนคือน่าจะตํากว่า 1352
เพียงแต่ว่า แกปนี้จะขึ้นไปปิดวันนี้ หรือลงไปที่ 1340-1346 ก่อน แล้วขึ้นไปปิด โอกาสลงไปก่อนที 1340-1346 หรือขึ้นไปก่อนที่ 1375
วันนี้พอๆกัน 50/50
ท่านที่ซื้อแบบแท่ง
รอซื้อแบบแท่ง จุดแรกคือ 1355-1360 ตามรายวัน จุดต่อไปคือ 1320, 1280 ตามรายสัปดาห์และรายเดือน
ตอนนี้กราฟรายสัปดาห์เส้น moving average เริ่มตัดลงแล้ว ทําให้โอกาสที่ทองจะลงต่อไปอีก 1-2 สัปดาห์มีโอกาสสูงมากขึ้น
จุดหมาย 1320
และ 1280 ท่านก็ต้องตัดสินใจเอง จะเข้าซื้อที่ราคาเท่าไร แบ่งสัดส่วน% ตามความเหมาะสมของตัวท่านเอง
โปรดอย่าลืม ที่ผมเขียนเป็นการเดาจากกราฟและประสบการณ์ อาจไม่ถูกต้องเลยก็ได้ ท่านอ่านแล้วต้องตัดสินใจเองครับ
ทั้งหมดเดาครับ
copy มาจาก คุณ paul711 gold2gold.com
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
ธปท.เผยทุนสำรองมี1.724แสนล้านเหรียญสหรัฐ
posttoday
14 มกราคม 2554 เวลา 16:02 น. |เปิดอ่าน 134 | ความคิดเห็น 0
ธปท.เผยทุนสำรองระหว่างประเทศมี 1.724 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังความจำเป็นในการแทรกแซงเงินบาทแข็งค่าลดลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 7 ม.ค.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 1.724 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.224 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 300 ล้านหรือประมาณ 9,000 ล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 1.721 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.190 ล้านล้านบาท ด้านฐานะสุทธิสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าแลกกับเงินเงินบาทอยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนที่ 1.96 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่ธปท.เข้าซื้อเงินเหรียญสหรัฐเพื่อเก็บในทุนสำรองลดลง และซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าลดลง เพราะความจำเป็นในการเข้าแทรกแซงเงินบาทแข็งค่ามีน้อยลง โดยปัจจุบันเงินบาทเริ่มเคลื่อนไหวใน 2 ทิศทางมากขึ้น ทั้งปรับแข็งค่าขึ้นและอ่อนค่าลง ล่าสุดวันที่ 14 ม.ค.เงินบาทเคลื่อนไหวเปิดตลาดที่ระดับ 30.55 -30.57 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงตามแนวสกุลในภูมิภาค
สำหรับฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือประชาชนและเงินฝากในสถาบันการเงินอยู่ที่ระดับ 1.160 ล้านล้านบาท ลดลง 8.37 หมื่นล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.244 ล้านล้านบาท คาดปริมาณเงินหมุนเวียนลดลงตามความต้องการใช้จ่ายที่ลดลงหลังเทศกาลปีใหม่
14 มกราคม 2554 เวลา 16:02 น. |เปิดอ่าน 134 | ความคิดเห็น 0
ธปท.เผยทุนสำรองระหว่างประเทศมี 1.724 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังความจำเป็นในการแทรกแซงเงินบาทแข็งค่าลดลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 7 ม.ค.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 1.724 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.224 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 300 ล้านหรือประมาณ 9,000 ล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 1.721 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.190 ล้านล้านบาท ด้านฐานะสุทธิสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าแลกกับเงินเงินบาทอยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนที่ 1.96 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่ธปท.เข้าซื้อเงินเหรียญสหรัฐเพื่อเก็บในทุนสำรองลดลง และซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าลดลง เพราะความจำเป็นในการเข้าแทรกแซงเงินบาทแข็งค่ามีน้อยลง โดยปัจจุบันเงินบาทเริ่มเคลื่อนไหวใน 2 ทิศทางมากขึ้น ทั้งปรับแข็งค่าขึ้นและอ่อนค่าลง ล่าสุดวันที่ 14 ม.ค.เงินบาทเคลื่อนไหวเปิดตลาดที่ระดับ 30.55 -30.57 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงตามแนวสกุลในภูมิภาค
สำหรับฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือประชาชนและเงินฝากในสถาบันการเงินอยู่ที่ระดับ 1.160 ล้านล้านบาท ลดลง 8.37 หมื่นล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.244 ล้านล้านบาท คาดปริมาณเงินหมุนเวียนลดลงตามความต้องการใช้จ่ายที่ลดลงหลังเทศกาลปีใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554
นักวิเคราะห์คาดธนาคารกลางยุโรป-อังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554 14:34:34 น.
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมวันนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อรายปีในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีและเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีก็ตาม
ทั้งนี้ อีซีบีอาจจะเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับโครงการซื้อพันธบัตร ในขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปยังคงลุกลามเข้าสู่ปีใหม่ โดยที่วิกฤตหนี้โปรตุเกสถูกจับตามองมากที่สุด นอกจากนี้ คาดว่าการแถลงข่าวภายหลังการประชุมของนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบี จะมุ่งเน้นไปที่โครงการซื้อพันธบัตรของอีซีบีที่ดำเนินการในจังหวะที่รวดเร็วขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
การประมูลพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสผ่านไปค่อนข้างราบรื่นเมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การที่อีซีบีเข้าซื้อพันธบัตรในสัปดาห์นี้เป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการออกพันธบัตรในโปรตุเกส ในขณะที่โปรตุเกสยังคงยืนยันว่า โปรตุเกสยังไม่มีความจำเป็นที่จะขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากไอเอ็มเอฟและอียูเหมือนกับไอร์แลนด์และกรีซ แม้หลายฝ่ายยังคงกังวลว่าโปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือก็ตาม
เมื่อวานนี้ รัฐบาลโปรตุเกสสามารถประมูลขายพันธบัตรมูลค่า 1.25 พันล้านยูโร หรือ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 4 ปีนั้น สูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 2.6 เท่า และสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปีมีจำนวนสูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 3.2 เท่า
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันนี้เช่นกัน แม้อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-
http://www.ryt9.com/s/iq03/1066433
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมวันนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อรายปีในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีและเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีก็ตาม
ทั้งนี้ อีซีบีอาจจะเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับโครงการซื้อพันธบัตร ในขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปยังคงลุกลามเข้าสู่ปีใหม่ โดยที่วิกฤตหนี้โปรตุเกสถูกจับตามองมากที่สุด นอกจากนี้ คาดว่าการแถลงข่าวภายหลังการประชุมของนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบี จะมุ่งเน้นไปที่โครงการซื้อพันธบัตรของอีซีบีที่ดำเนินการในจังหวะที่รวดเร็วขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
การประมูลพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสผ่านไปค่อนข้างราบรื่นเมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การที่อีซีบีเข้าซื้อพันธบัตรในสัปดาห์นี้เป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการออกพันธบัตรในโปรตุเกส ในขณะที่โปรตุเกสยังคงยืนยันว่า โปรตุเกสยังไม่มีความจำเป็นที่จะขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากไอเอ็มเอฟและอียูเหมือนกับไอร์แลนด์และกรีซ แม้หลายฝ่ายยังคงกังวลว่าโปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือก็ตาม
เมื่อวานนี้ รัฐบาลโปรตุเกสสามารถประมูลขายพันธบัตรมูลค่า 1.25 พันล้านยูโร หรือ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 4 ปีนั้น สูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 2.6 เท่า และสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปีมีจำนวนสูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 3.2 เท่า
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันนี้เช่นกัน แม้อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-
http://www.ryt9.com/s/iq03/1066433
วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554
ทองคำปิดพุ่ง 10.2 ดอลล์ วิตกปัญหาหนี้ยุโรป
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
วันที่ : 12 มกราคม 2554
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดเพิ่มขึ้น วิตกปัญหาหนี้ยุโรป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,384.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 1384.0 - 1378.0 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 63.8 เซนต์ ปิดที่ 29.499 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 8.45 เซนต์ ปิดที่ 4.3490 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 25.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,770.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 34.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 783.75 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของประเทศยุโรป และคาดการณ์ว่าอาจมีอีกหลายประเทศในยุโรปที่ต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงทองคำและโลหะเงิน
เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงพอที่จะบีบให้โปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู) เช่นเดียวกันกรีซและไอร์แลนด์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำจำนวนมากก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีน
วันที่ : 12 มกราคม 2554
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดเพิ่มขึ้น วิตกปัญหาหนี้ยุโรป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,384.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 1384.0 - 1378.0 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 63.8 เซนต์ ปิดที่ 29.499 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 8.45 เซนต์ ปิดที่ 4.3490 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 25.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,770.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 34.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 783.75 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของประเทศยุโรป และคาดการณ์ว่าอาจมีอีกหลายประเทศในยุโรปที่ต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงทองคำและโลหะเงิน
เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงพอที่จะบีบให้โปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู) เช่นเดียวกันกรีซและไอร์แลนด์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำจำนวนมากก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีน
วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
แปลงไฟล์เป็น mp3
ใช้ โปรแกรม Real Player Converter
แค่ลากไฟล์มาวางตรงวงกลม ๆ เลือกประเภทไฟล์ปลายทางที่ต้องการ เลือก folder ที่ต้องการ save ลง หลังจากนั้นก็กดปุ่ม start แค่นี้ก็เรียบร้อย นอกจากนี้สามรถแปลงไฟล์ได้อีกหลาย ๆ format ไฟล์หนังก็แปลงได้ แจ๋วจริง ๆ อิอิ
แค่ลากไฟล์มาวางตรงวงกลม ๆ เลือกประเภทไฟล์ปลายทางที่ต้องการ เลือก folder ที่ต้องการ save ลง หลังจากนั้นก็กดปุ่ม start แค่นี้ก็เรียบร้อย นอกจากนี้สามรถแปลงไฟล์ได้อีกหลาย ๆ format ไฟล์หนังก็แปลงได้ แจ๋วจริง ๆ อิอิ
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
Android คืออะไร?
คู่แข่ง iPhone?
วงการมือถือในปัจจุบันมีโทรศัพท์กลุ่มที่เรียกว่า SmartPhone ซึ่งคือมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่า โทรเข้า-ออก โดยสามารถเข้าถึงบริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ตผ่าน App(แอพลิเคชั่น หรือโปรแกรม)บน Smartphone ทำให้โทรศัพท์มือถือในกลุ่ม SmartPhone เป็นอะไรที่ดึงดูดผู้ใช้งานมือถือที่ต้องการอะไรที่ใหม่ๆ เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และเกิด LifeStyle ใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบัน เจ้าตลาด SmartPhone คือ iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ล ที่โด่งดังมาตลอดในช่าม 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยยังไม่มีใครมาทาบรัศมีได้.. แต่แล้วในปีนี้เราเริ่มจะเห็นมือถือหลายรุ่นที่มีหน้าตาการทำงานคล้ายกัน และมีความสามารถที่ทัดเทียมกับ iPhone และในบางกระแสบอกว่า ความสามารถของเจ้ามือถือนี้ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า iPhone เสียอีก… ผู้คนเรียกขานเจ้ามือถือหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่มีหน้าตาการทำงานที่เหมือนกันนี้ว่า “Android(แอนดรอยด์) Phone”

Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? และ Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
วิธีที่จะเข้าใจว่า Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? อย่างง่ายๆ ให้เราลองนึกถึง คอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ ตอนนี้ใช้ Windows อะไรอยู่ครับ บางคนก็จะตอบว่า Windows 7, Windows Vista บางคนก็ตอบว่า Windows XP หรือบางคนอาจจะตอบว่า ผมไม่ใช้ Windows ผมใช้ Linux ซึ่งจะเป็น Linux รุ่นไหนก็ว่ากันไป … Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการ(OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น โทรศัพท์มือถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกันครับ มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ครับ ในขณะที่บริษัทกูเกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมา

Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
เราเข้าใจว่ามันมีระบบปฏิบัติการ iPhons OS และ Android OS แล้วนะครับ เมื่อเรานำระบบปฏิบัติการ iPhone OS ไปลงในมือถือ(เหมือนที่เราเอา Windows ไปลงในคอมพิวเตอร์) มือถือที่ลงเจ้า iPhone OS ก็จะกลายเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ และเมื่อเราเอา Android OS ไปลงในมือถือ เราก็จะได้ Android Phone … แต่ความแตกต่างกันของ iPhone และ Android Phone ก็คือ iPhone มีผู้ผลิตรายเดียวคือแอปเปิ้ล จะไม่มีใครในโลกนี้ สามารถเอามือถือมาลง iPhone OS กลายเป็น iPhone มาขายได้อย่างแอปเปิ้ล ในขณะที่ Android(แอนดรอยด์) Phone นั้นใครๆก็ผลิตได้ เพราะกูเกิ้ลแจก Android OS ฟรีๆ เราจึงเห็นโทรศัพท์มือถือ Android Phone หลายรุ่นในตลาดมือถือ ซึ่งผลิตจากหลายบริษัท ทั้ง Samsung , Sony ericsson, HTC หรือแม้แต่กระทั่ง Motorola ..
วิธีที่จะเข้าใจว่า Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? อย่างง่ายๆ ให้เราลองนึกถึง คอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ ตอนนี้ใช้ Windows อะไรอยู่ครับ บางคนก็จะตอบว่า Windows 7, Windows Vista บางคนก็ตอบว่า Windows XP หรือบางคนอาจจะตอบว่า ผมไม่ใช้ Windows ผมใช้ Linux ซึ่งจะเป็น Linux รุ่นไหนก็ว่ากันไป … Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการ(OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น โทรศัพท์มือถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกันครับ มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ครับ ในขณะที่บริษัทกูเกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมา
Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
เราเข้าใจว่ามันมีระบบปฏิบัติการ iPhons OS และ Android OS แล้วนะครับ เมื่อเรานำระบบปฏิบัติการ iPhone OS ไปลงในมือถือ(เหมือนที่เราเอา Windows ไปลงในคอมพิวเตอร์) มือถือที่ลงเจ้า iPhone OS ก็จะกลายเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ และเมื่อเราเอา Android OS ไปลงในมือถือ เราก็จะได้ Android Phone … แต่ความแตกต่างกันของ iPhone และ Android Phone ก็คือ iPhone มีผู้ผลิตรายเดียวคือแอปเปิ้ล จะไม่มีใครในโลกนี้ สามารถเอามือถือมาลง iPhone OS กลายเป็น iPhone มาขายได้อย่างแอปเปิ้ล ในขณะที่ Android(แอนดรอยด์) Phone นั้นใครๆก็ผลิตได้ เพราะกูเกิ้ลแจก Android OS ฟรีๆ เราจึงเห็นโทรศัพท์มือถือ Android Phone หลายรุ่นในตลาดมือถือ ซึ่งผลิตจากหลายบริษัท ทั้ง Samsung , Sony ericsson, HTC หรือแม้แต่กระทั่ง Motorola ..
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คือการแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา สมมติปัญหาของเราคืออาการเบื่อ เราก็ต้องรู้ให้ได้ก่อน ว่าเราเบื่อเพราะอะไร แล้วถึงจะรู้ว่าเราจะทำยังไง เพราะถ้าเรามั่วมันอาจจะไม่หายเบื่อ เช่น เราคิดว่าดูทีวีแล้วจะหายเบื่อ ปรากฏว่าอาจจะเบื่อกว่าเดิม เพราะมีแต่รายการห่วยแตก ทีนี้สิ่งที่มันยากที่สุดก็คือ หาสาเหตุของความเบื่อนั่นแหละ เพราะบางทีมันอาจจะเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุ รวม ๆ มาเป็นความเบื่อก้อนใหญ่โตมโหฬารก้อนเดียว ดังนั้นก็ต้องใช้หลัก devide and conquer คือ การแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ แล้วแก้ไขไปทีละส่วนนั้น ส่วนใหญ่เค้ามักจะแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ที่ส่งผลต่อความเบื่อมากที่สุดก่อน เพราะถ้าหากจัดการมันได้ ก็จะลดความเบื่อลงไปได้มาก สมมติว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเราส่งผลให้มีความเบื่อ 60% ของความเบื่อทั้งหมด ถ้าเรากำจัดปัญหานั้นลงได้ เราก็จะหายเบื่อไปเกินกว่าครึ่งเลยทีเดียว ///บ่นจบแระ
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554
เคยเบื่อป่ะครับ
เบื่อ ๆ แล้วก็อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ไม่รู้จะเข้าเว็บไหนดี search ก็ไม่รู้จะหาคำว่าอะไรดี ลอง เว็บ http://www.bleb.org/random/ นี้ดูครับ
คลิ๊กปุ่ม take me into the unknown แล้วก็กด More unknownness เพื่อสุ่มคำต่อไป ลองดูนะครับเผื่อจะหายเบื่อ สำหรับผมเองลองทำดูแล้ว ไม่หายอ่ะ :)
คลิ๊กปุ่ม take me into the unknown แล้วก็กด More unknownness เพื่อสุ่มคำต่อไป ลองดูนะครับเผื่อจะหายเบื่อ สำหรับผมเองลองทำดูแล้ว ไม่หายอ่ะ :)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)