วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คึ่นช่าย กับ ตั๋งโอ๋

ผมว่าผมรู้จัก คึ่นช่าย กับ ตั๋งโอ๋ ว่ามันเป็นผักคนละอย่างกัน ตอนเด็กไม่ชอบกิน คึ่นช่าย เพราะมันฉุน ไม่อร่อย แต่ตอนนี้กินได้แล้ว เพราะชอบกินผัดเต้าหู้ใส่คึ่นช่าย ส่วน ตั๋งโอ๋ รู้จักตอนไปกินเอ็มเค มันอร่อยดีชอบกิน แต่ไม่ค่อยได้กินที่บ้าน มันหาซื้อยากหรือไงไม่รู้ มางงอีกทีตอนอายุ 32 นี่แหละ มีคนน่ารักคนนึงเค้าบอกว่า เค้าเรียกคึ่นช่าย ว่า ตั๋งโอ๋ กันทั้งนั้นแหละ เค้าเรียกกันทั้งตลาด แถวดอนเมืองเค้าเรียกอย่างงี้กันทั้งนั้น ผมก็เลยไปถามแถวตลาดสำโรงดูบ้าง ว่าจริงไม๊ เออ จริงๆ แฮะ ผมก็เลยเข้าใจว่าผมเข้าใจผิดตั้งแต่เด็กเลย วันนี้กินปลาเ๋ก๋าทอดผัดกับ คึ่นช่าย มันก็ยังคาใจอยู่นั่นแหละ ว่านี่เค้าเรียก ตั๋งโอ๋ จริง ๆ เหรอ เลยลอง ถามอากู๋ (ลุงกูเกิ้ล) ดูแล้วก็พบว่ามีคนสงสัยเหมือนกันกับผมแล้วไปพิมพ์ถามตามเว็บบอร์ดเยอะแยะเลยอ่ะ ผมเลือกที่จะอ่านที่ http://www.pim.in.th/faq-thai-food/240-celery.html แล้วกันนะครับ ดูจะเข้าใจง่ายดี

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 24

สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ขอเชิญผู้สนใจ ร่วมงาน “มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 24” ที่รวมเอาโครงการบ้านและคอนโดครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ครบที่สุด ทุกที่ ทุกทำเล จากผู้ประกอบการหลากหลายโครงการ กว่า 600 โครงการ ชมผลงาน การประกวดออกแบบของเยาวชน ในโครงการประกวดออกแบบ Architect and Interior Design House and Condo Creative Awards 2011 พบกับโปรโมชั่นสุดเร้าใจมากมาย อาทิ ลุ้นสนุกกับการจับฉลากรางวัล รับบัตรกำนัลส่วนลด เครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผู้จองบ้านหรือคอนโดภายในงานโดยเฉพาะนอกจากนี้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าชมงานผ่านทางเว็บไซต์ www.housecondoshow.com มาจับจองโครงการบ้านและคอนโดทำเลดีดีได้ ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 มีนาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร Tel. 02-862-3344, 02-229-3188-90, 02-440-1274-5

http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=EF26D4496126474FB0C39F5E6983A168

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

mini Hidef คือ อะไร

  • mini Hidef ความละเอียดประมาณ 720p เหมาะกับผู้ใช้จอความละเอียด 1366*768 หรือ HD ready
  • Hidef ความละเอียดประมาณ 1080p เหมาะกับผู้ใช้จอความละเอียด 1920x1080 หรือ Full HD


จะนำหนัง 1080p ไปเล่นกับจอ 1366*768 ก็ได้ แต่จะไม่เห็นผลอะไร เพราะไงๆจอมันก็แสดงได้แค่ 1366*768 อยู่แล้ว


  • เทคโนโลยีการเข้ารหัสมีความฉลาดและซับซ้อนกว่าพวก mpeg ครับ จึงได้ขนาดไฟล์ที่เล็กกว่าและดีกว่า แต่การอ่านไฟล์ mkv จะเปลืองแรง CPU มากกว่าอ่านไฟล์ mpeg เช่น vcd dvd ถือว่าจัดอยู่ในพวก mpeg นะ ยกเว้นว่า Cpu นั้นจะได้รับการออกแบบและมีโปรแกรมสำหรับถอดรหัสประมวลผลไฟล์นั้นโดยตรง มันถึงจะไม่กินแรง CPU



  • mkv ไม่ใช่ format video นะครับ เป็น Container ชนิดหนึ่ง ที่สามารถรวมไฟล์ภาพ และไฟล์เสียง ไว้ด้วยกัน ลอง ค้นหาดูใน google http://en.wikipedia.org/wiki/Blu-ray_Disc ส่วน หนัง Hidef ที่เห็นคนเอามาปล่อยในบิท ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบ Container .mkv ขนาดไฟล์ต่างกัน เพราะ คนที่ Encode จาก Format BD > H264 จะกำหนด bitrate ของภาพและเสียงลดลง ยิ่งลด Bitrate ลงต่ำเท่าไหร่ คุณภาพของภาพและเสียงก็จะลดลง สิ่งที่ได้คือขนาดไฟล์จะลดลง ....ไม่เกี่ยวกับขนาด 720p หรือ 1080p)
  • bitrate คือจำนวน bit ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลของ ภาพหรือเสียง ต่อ 1 ช่วงเวลา

    เช่น 128KB/s คือ จะต้องใช้จำนวนบิต 128 กิโลบิต เพื่อเก็บข้อมูล 1 วินาที

    bitrate จะมีผลต่อขนาดไฟล์ เช่นถ้าเราเก็บเพลง ขนาด 128kb/s ความยาว 4 นาที เราจะต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเป็น
    ( 128 x 1024 x 4 x 60 ) / 8 = 3,932,160 ไบต์ หรือประมาณเกือบ 4 MB ครับ

    128 = จำนวนบิตเรต
    1024 = กิโล
    4 = นาที
    60 = จำนวนวินาทีต่อ 1 นาที
    8 = จำนวน บิต ต่อ 1 ไบต์
  • โดยเฉลี่ย ภาพ BD-Hidef แบบต้นฉบับ master จะอยู่ที่ 20-40MBit/sec

    ส่วนไฟล์ ที่ Encode แล้ว ที่อยู่ในรูปแบบ .mkv bitrate 10-15Mbit/sec

copy มาจาก http://forum.thaidvd.net/index.php?showtopic=147202

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขั้นตอนของวัฎจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Stages of Product Life cycle)

- ขั้นแนะนำผลิตภัณฑ์ (Product Introduction)

- ขั้นตลาดเจริญเติบโต (Market Growth)

- ขั้นตลาดอิ่มตัว (Market Maturity)

- ขั้นยอดขายตกต่ำ (Sales Decline)

สมมติว่าเราจะทำ Marketing เราก็ควรจะทำใน 2 stage แรก ในช่วง Product Introduction ทำเพื่อให้คนรู้จักสินค้าที่ออกมาใหม่ ในช่วง Market Growth เพื่อให้ดึงดูดใจให้คนเลือกใช้สินค้าของเรามากกว่าของคู่แข่ง ในขั้น Market Maturity สินค้ามันขายได้ดีอยู่แล้ว อาจจะไม่ต้องทำ Promotion มากนัก แต่ต้องเริ่มคิดเริ่มทำ Product differentiation แล้ว R&D จะเข้ามาช่วยเสริมตรงจุดนี้ ช่วง Sales Decline ไม่ต้องโปรโมทแล้วล่ะคงขุนไม่ขึ้น ลดแลกแจกแถมล้างสต็อคซะ แล้วเตรียม launch สินค้าใหม่

ความรู้อันนี้นำมาปรับใช้กับอะไรได้หลากหลาย ลองเปรียบสิ่งต่าง ๆ แล้วแทนค่าลงไปตรงคำว่า "สินค้า" เช่น กระบวนการทำงานอะไรสักอย่าง หรือแม้กระทั่ง "คน"

ถ้าเปรียบ "คน" เป็นสินค้า ก็ทำเหมือนกัน แต่การ launch สินค้าใหม่ ไม่ได้หมายความว่าให้ไปตายแล้วเกิดใหม่ พอถึงช่วงอิ่มต้วก็ต้องรู้จักปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อะไรพลาดก็แก้ไข หาความรู้ใหม่ ๆ ใส่หัว มันจะได้ไม่ต้องข้าม stage มาถึงยุคตกต่ำ  ไม่ใช่ว่าคิดแต่จะทำโปรโมชั่นอย่างเดียว เสนอหน้าไปซะทุกเรื่อง ออกทีวีโชว์ตัว แต่ถ้าประชาชนเค้ารู้แล้วว่า "กลวง" ออกทีวีบ่อย ๆ ก็รังแต่จะเป็นการประจานตัวเอง สร้างความสะอิดสะเอียน หากยังไม่รู้ตัวอีกว่าก้าวข้ามมาสู่ความตกต่ำแล้วคงต้องใช้คำว่า "สายเกินไป" หรือว่า "เกินเยียวยา"

ทุกวันนี้นั่งมองคนที่เลยจุดเหมาะสมที่จะทำโปรโมทตัวเองแล้ว แต่ก็ยัง ตะบี้ตะบัน หา content มาทำโฆษณาตัวเอง ความรู้สึกคือ ขำ เอียน สมเพช สงสาร ปน ๆ กันไป สุดท้ายความรู้สูง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร "ถ้าคิดไม่เป็น"

http://sangjun.hostzi.com/file3/c0.html

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ภาษา Chat ที่ใช้บ่อย ๆ

ASAP As soon as possible เร็วสุดเท่าที่เร็วได้
A/S/L Age/Sex/Location อายุ/เพศ/อยู่ที่ไหน
BRB Be right back แปปนึง เดี๋ยวมา
AFK Away from computer keyboard (ตอนนี้ไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง)

G2G Got to go ต้องไปแล้วนะ

IC I see อืม เข้าใจ

K Okay โอเค

NP No problem ไม่มีปัญหา เรื่องเล็ก

OIC Oh, I see อืมๆ เข้าใจแล้ว
OMG Oh my god พระเจ้า จอร์จจจ

PLS Please นะๆๆๆ
PLZ Please นะๆๆๆ ได้โปรด

TTYL Talk to you later แล้วคุยกันใหม่นะ

WB Welcome back ต้อนรับกลับมาจ้า

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องบินตก

คุณแม่ยังสาว พาลูกมา 2 คน อุ้มคนนึง จูงคนนึง ลูกคนโตพูดเก่งมาก คนขายของก็เลยแซวว่า "พูดเก่งจริง ๆ" แม่เค้าบอกว่า "มันพูดมาก" พอดีมีเครื่องบินบินผ่าน เด็กคนนั้นร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า "แม่ ๆ เครื่องบิน" แม่สวนทันที "ไหว้ซะสิ" ลูกยังคงตะโกนเรียกเครื่องบินต่อ "เครื่องบิน ๆ" แม่เล่นมุกต่อ "เค้าบอกว่า ถ้าใครเห็นเครื่องบินให้เอานิ้วแหย่ก้นตัวเองแล้วเอามาดม" (ตรงนี้ไม่สุภาพนิดหน่อย แต่ผมแปลงคำให้มันเบาลง) เด็กก็ไม่สนใจยังคงร้องเรียกเครื่องบิน "เครื่องบิน ๆ มานี่จอดหน่อย" คนขายแกล้งพูดว่า "อย่างเรียกเครื่องบินแบบนั้น เดี๋ยวมันตก เพิ่งตกไป 2 ลำเนี่ย" แม่เค้าเลยหันมาถามคนขายของด้วยว่า มีตกเหรอที่จังหวัดไหน คนขายของตอบว่า "ที่ ชัยภูมิ F16 ตกไป 2 ลำ" คุณแม่วัยรุ่นคนนั้นตอบว่า "อืม ไม่ค่อยได้ดูข่าว ไม่รู้เรื่องเลย แล้วเดินออกจากร้านไป"

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิเคราะห์ราคาทองคำ วันวาเลนไทน์

http://prinkgold.blogspot.com/

ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้า ยังมองว่าจะย่อตัวก่อนที่จะขึ้นต่อ แนะนำหาจังวะเข้าทำเมื่อย่อตัวลงมาแถวๆ 1330+ มุมมองผมว่าไม่เกินสองเดือนทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทองคำจะกลับเป็นขาขึ้น SET50 จะขึ้น น้ำมันจะขึ้น ช่วงนี้ดูกราฟของวันศุกร์ไปก่อนนะครับดูตรงราย 4 ชั่วโมงแบบที่สอง เพราะราคาไม่ผ่าน 1368 เหนียวจริงๆ รอเข้าเก็วแถว 1330+ ขึ้นมาก่อนทยอยสะสม เพราะใกล้เวลาที่ทองคำจะขึ้นเต็มทีแล้ว แต่ก้ต้องดูค้่เงิน US ประกอบกันไปและค่าเงินบาทด้วย

http://www.thaigold.info
น้าโป๊ะ GF

อัพเดท กราฟสุดสัปดาห์ หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาผิดหวังอย่างเเรงที่จรวดไม่มา

ตอนนี้ดูจากกราฟ ที่ผมวัดราคาทองคำได้เบรกเเนวขาลงขึ้นมาได้เเล้วเเต่ยังพยายามอย่างหนักที่จะทะลุเบรกขึ้นเเนวรับเก่าที่หลุดลงมาที่ระดับความสูง

1365 เหรียญ ที่พยายามยืนหลายครั้งเเล้ว เเต่ยืนขายังไม่เเข็งเเรงสักเท่าไรเจอตบลงมาอีกรอบ ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 1356 เหรียญซึ่งถึงว่าไม่ขี้เหล่มากนัก

ในการกลับตัวดีดเเรงขึ้นไปอีกรอบนึง

สั้น ๆ ง่าย ๆ ขี้เกียจพิมพ์นานเเละ ว่ากันเลยดีกว่า ตอนนี้ยังถือต่อได้ ชิว ๆ ไม่มีปัญหา อะไรนะคับสำหรับขายาวทั้งหลาย โดยมีเป้าหมายขายจุดเเรก

ที่เดิมที่ระดับ 1378 เหรียญ เเต่ หากราคาหลุด 1348 ซึ่งเป็นเเนวรับรายเดย์ลงมา ควรที่จะ Stop loss ออกไปก่อนรอดูจังหวะใหม่กัน เเต่การคาด

การณ์ของผม ผมให้จับตาดูวันอังคารที่จะถึงนี้ อย่าคาดสายตาสำหรับคนที่ถือ L ไว้ รวยไม่รวยน่าจะอยู่คืนวันอังคารซึ่งคิดว่าน่าจะมีจรวดมาในวันอังคาร

ลองดูกันนะคับ ส่วนคนที่มี S ผมเเนะนำเลยถ้าไม่หลุด 1348 ปิดออกไปดีกว่า ( ระวังจรวด ) วันนี้เเค่นี้ก่อนนะคับไว้จะมาอัพเดย์ต่อวันหน้า

ขอให้รวย ๆ อย่าลืม 1378 คือเป้าหมายต่อไป กร๊ากกกกกกกกก


seam888 web ไทยโกลด์

GC20110211 ระบบเเดงราคายังไม่ขึ้นจริงครับ
ทองคำ ราย 4 Hr ระยะสั้นๆ ราคามีการผรับตัวลง ให้ นลท ระยะสั้นระวังให้ดีๆๆครับ

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Who cares?

วิธีใช้ คำว่า Who cares? จาก
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plus&month=10-2006&date=19&group=1&gblog=42


เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสคุยกับพี่ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนคนหนึ่ง เธอมาบ่นถึงรุ่นน้องผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ทำงานไม่ถูกใจเธอเป็นอย่างมาก แต่เวลาเธอตักเตือน กลับทำท่าไม่พอใจ แถมยังชอบแสดงกิริยาประชดประชัน เธอบ่นยาวเหยียดถึงพฤติกรรมของรุ่นน้องคนนี้ด้วยความเร็วชนิดที่ว่า คนปากไวๆ อย่างเรายังหาโอกาสแทรกไม่ได้เอาเลย


“เนี่ย ซี เธอคิดดูนะ ทำงานผิดอยู่เรื่อย แถมขี้เกียจด้วย หนีงานได้เป็นหนี ออกก่อนได้เป็นออก เวลาพี่ว่า ก็ทำหน้างอ ถามอะไรก็ตอบสะบัดๆ คงคิดว่าพี่จะ care ล่ะสิ แต่ Who’s care? ตัวเองว่ามั้ย”

“ค่ะ ..”

“แล้วเวลาพูดกับใครเกี่ยวกับพี่ ก็จะชอบพูดประชด บอกว่า พี่จุ๋มอะเหรอ โอ๊ย แกอ่ะ ดีกว่าคนอื่นหมดแหละ ใครก็ไม่ดีเท่าแกหรอก”

“ค่ะ..”

“แต่เสียงน่ะ ฟังแล้วรู้เลยว่าพูดประชด คงคิดจะ discredit พี่ล่ะซี๊ ... เฮอะ... who’s care เนี่ย”

“ค่ะ..”

“เนี่ย มีคนมาถามพี่หลายคนแล้ว ว่ามีอะไรไม่พอใจเล็กเค้าเหรอ เพราะเค้าไปบ่นๆ ว่าพี่ treat เค้าไม่ดี พี่ก็ offend เหมือนกันน่ะ แต่ก็นั่นแหละ ... ฮึ .. who’s care ล่ะ จะว่าอะไรก็ว่าไปเลย เตือนอะไรแล้วก็ไม่ฟัง ถึงเวลาปลายปี ไม่ได้โบนัสแล้วอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”

“ค่ะ ..”



เอ่อ....

พี่คะ ... ถ้าพี่จะเว้นวรรคพูดซักนิ๊ดนึง ... หนูแค่อยากจะบอกว่า ถ้าในเรื่องแบบนี้แล้ว มันต้อง....




Who cares? ค่ะพี่ Who cares?


ไม่ใช่ “Who’s care?” เด้ออ.... สาวน้อยยยย...


care เป็นได้ทั้งคำกริยาและคำนาม ในกรณีนี้ ผู้พูดต้องการจะพูดประมาณว่า “ใครสนใจเนี่ย” หรือ “ใครแคร์เนี่ย” เพื่อสื่อความหมายว่าตัวเองไม่สนใจ ไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องใช้ care ที่เป็นคำกริยา เมื่อตามหลัง who ซึ่งถือว่าเป็นเอกพจน์ จึงเป็น Who cares? ไม่ใช่ Who’s care? ซึ่งอยู่ในรูป กริยา to be (is) + กริยาช่อง 1 ของ care ซึ่งไวยากรณ์นี้ไม่มี


หรือ ถ้ามองเป็น verb to be (is) + คำนาม ก็จะหมายความว่า “ใครคือความสนใจ” เหมือนๆ “Who’s Amanda? = ใครคืออาแมนดา” ประมาณนั้น ซึ่งก็จะไม่ใช่ความหมายที่ผู้พูดต้องการสื่อออกมา


-------------------------------------------------------

ผมอยากจะพูดว่า people die and Who cares? ก็เลยหาว่าเค้าใช้กันยังไง ว่าแต่ people die มันถูกป่าวหว่า



วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA)

ประเภทของกองทุน
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ และเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) และรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

จุดประสงค์การลงทุน
เพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปและนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับนโยบายการลงทุนของกองทุน

นโยบายการลงทุน
กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ "Hang Seng H-Share Index ETF ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศฮ่องกง และจัดตั้งและจัดการโดย Hang Seng Investment Management Limited

นโยบายเงินปันผล
ไม่มีการจ่ายเงินปันผล

วันจดทะเบียนกองทุน
29 มกราคม 2553

เช็ค NAV ที่นี่


วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

3BB แจงไม่ได้ปิดบริษัท นัดแจงปัญหาลอยแพลูกค้ากับสบท.จันทร์หน้า

รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท ทริปเปิลทรี อินเทอร์เน็ต จำกัด หรือ "3BB" ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ปิดกิจการแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่ลูกค้าจำนวนหนึ่งไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ใช้วงจรเช่าของบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด(มหาชน) แต่ได้หมดสัญญาเช่าไปแล้ว ทำให้บริษัทไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายได้ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ. นี้ผู้บริหารจะไปชี้แจงปัญหาดังกล่าวในการสัมมนาของสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.)

สำหรับปัญหาดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้บริโภคจำนวนมากแจ้งว่า ถูกบริษัท ทริปเปิลทรี อินเทอร์เน็ต จำกัด หรือ "3BB" ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เมื่อสอบถามก็ได้รับแจ้งว่า บริษัทยุติการให้บริการแล้ว ทำให้ผู้บริโภคที่ใช้บริการทั้งที่ใช้งานส่วนบุคคล และผู้ที่ต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตได้รับความเดือดร้อน ในเบื้องต้นพบผู้เดือดร้อนมากกว่า 20 จังหวัดครอบคลุมทุกภูมิภาค เช่น ชลบุรี ตราด เชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ศรีสะเกษ สุราษฏร์ธานี ตรัง นครราชสีมา เป็นต้น

โดยปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจาก 3BB ได้ลดการใช้งานวงจรเช่าของบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) จากที่เคยใช้งานอยู่ 320,278 วงจร เหลืออยู่เพียง 12,333 วงจรเท่านั้น และคงจะลดลงเหลือ 0 ภายในระยะเวลาไม่นานนี้ เป็นไปได้ว่า ผู้บริโภคในต่างจังหวัดที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของ 3BB แบบมีเบอร์โทรศัพท์ของทีทีแอนด์ทีจะถูกแจ้งยกเลิกการให้บริการทั้งหมดในที่สุด คาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบทั่วประเทศอย่างน้อย 12,000 ราย สบท. จึงจะจัดให้มี เวทีสาธารณะ “ผู้ใช้ 3BB ถูกลอยแพ..ใคร? แก้ปัญหา” ในจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 2 อาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน ซอย ๘ (ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์) เขตพญาไท กรุงเทพฯ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1296809685&grpid=03&catid=05

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บลจ. กสิกรไทย โชว์ฟอร์มบริหารกองทุนหุ้น เตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุน ร่วม 264 ล้านบาท



บลจ. กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนหุ้น 3 กองทุน เชื่อตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน แนะผู้ลงทุนเก็บกองทุนหุ้นปันผล
เข้าพอร์ตช่วยลดผลตอบแทนผันผวน


นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัท ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่
31 มกราคม 2554 จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE)
จ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินการตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2554 ในอัตรา 0.24 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) และ กองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ถึง
31 กรกฎาคม 2554 ในอัตรา 1.50 บาทต่อหน่วย และ 0.95 บาท ต่อหน่วย ตามลำดับ
โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554

“การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 263.82 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10.84 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมของทั้ง 3 กองทุนโดยกองทุน RKF2 และ RKF4 เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น Dividend yield ในรอบ 6 เดือนประมาณ 12.03%และ 12.51% โดยลำดับ ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาของทั้ง 2 กองทุนอยู่ที่ประมาณ 48% - 49% ขณะที่ผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 38.41% สำหรับกองทุน K-VALUE ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง ในปี 2553 มีการจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบปีบัญชีแรกไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ 0.67 บาทต่อหน่วย Dividend Yield สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2553 รวมแล้วอยู่ที่ 15.13% ด้านผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 42.66% เอาชนะผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ไป 4.25%” นายประเสริฐกล่าว




สำหรับแนวโน้มการลงทุนในหุ้น นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากการปรับ Portfolio
การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติซึ่งเริ่มมีความเห็นว่า เศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ทำให้มีการ
โยกย้ายเงินลงทุนกลับไปยังสหรัฐฯ มากขึ้น

ประกอบกับในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยและตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดอื่น จึงเป็นโอกาสการทำกำไรไปด้วย
พร้อมกัน ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ได้เริ่มต้นปีในระดับที่สูงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ และพืชผลมีราคาสูงจาก
ภัยธรรมชาติในปีที่ผ่านมา ทำให้มีความหวั่นเกรงถึงผลกระทบของเงินเฟ้อต่ออัตราดอกเบี้ยในประเทศตลาดเกิดใหม่
ส่งผลให้มีการลด การลงทุนในตลาดเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยลง นอกจากนี้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมายังเกิดวิกฤต
ทางการเมืองในประเทศอียิปต์ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการส่งน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ตลาดมีความ ผันผวนพอสมควร
อย่างไรก็ตาม เมื่อการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติสิ้นสุดลงและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับสมดุลแล้ว
เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสกลับมาให้ผลตอบแทนที่ดีต่อไป

“เรามองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนท่ามกลางความผันผวนจากผลกระทบภายนอก เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี
ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่การเติบโตของผลประกอบการบริษัทในตลาดเฉลี่ยในปี 2554 คาดการณ์
ว่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 15-17 อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะนี้ ผู้ลงทุนยังต้องใช้จังหวะในการเข้าซื้อขาย
และ ลดความผันผวนของผลตอบแทน ซึ่งการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูง เช่น การลงทุนในกองทุน K-VALUE
ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ หรืออาจเลือกจับจังหวะ Trade ทำกำไรระยะสั้นเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามการ
เคลื่อนไหวของตลาด” นายประเสริฐกล่าวในที่สุด


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ผู้ซื้อผู้ขายไข่ ส่ายหน้า ไม่เอาชั่งกิโล

สวนดุสิตโพล เผยสำรวจผู้ซื้อผู้ขายไข่ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่เอาการขายแบบชั่งกิโล ชี้ ไม่ชิน ยุ่งยาก และทำให้ไข่ได้รับความเสียหาย...

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความเห็นพ่อค้า/แม่ค้าและประชาชน ตามตลาดสด ใน กทม.และปริมณฑล เช่น ตลาด อ.ต.ก. ตลาดยิ่งเจริญ​ ตลาดนนทบุรี ตลาดรังสิต กับการขายไข่ไก่ชั่งกิโล วันแรก 1 ก.พ.

ผลปรากฎว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ถึงร้อยละ 95.18 ยังคงขายแบบแยกตามขนาด โดยให้เหตุผลว่าขายสะดวก ไม่ยุ่งยาก เคยชินกับการขายแบบนี้ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ และมีเพียง ร้อยละ 4.82 ที่ขายทั้งแบบแยกตามขนาดและขายแบบชั่งกิโล โดยให้เหตุผลว่า ขายของอยู่ในตลาดนำร่องที่มีการทดลองขายไข่ไก่แบบชั่งกิโล ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าที่มาซื้อ

ส่วนลูกค้าส่วนใหญ่มาซื้อไข่แบบไหนมากกว่ากัน นั้น ร้อยละ 95.24 ซื้อแบบแยกตามขนาด โดยให้เหตุผลว่า เพราะเคยซื้อขายกันแบบนี้ประจำ ซื้อสะดวก ไม่ยุ่งยาก คิดราคาง่าย ไข่ไก่ไม่เสียหาย ส่วนอีกร้อยละ 4.76 ซื้อทั้งแบบแยกตามขนาดและแบบชั่งกิโล โดยให้เหตุผลว่า ต้องการเปรียบเทียบว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน และวันนี้เป็นวันแรกในการทดลองขายไข่ชั่งกิโล

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าเห็นด้วยกับการขายไข่ไก่ชั่งกิโลหรือไม่ นั้น มีถึงร้อยละ 81.30 ไม่เห็นด้วย เพราะสร้างความยุ่งยากให้ทั้งคนซื้อและคนขาย การขายแบบกิโลทำให้ไข่แตก มีปัญหาในการคิดราคา และมีเพียงร้อยละ 4.41 ที่เห็นด้วย เพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ซื้อ เป็นนโยบายรัฐที่ต้องการช่วยเหลือประชาชน

http://www.thairath.co.th/content/region/145840

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์


ลงทุนในหน่วยลงทุนของ
W.I.S.E – CSI 300 China Tracker®
(Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

กองทุน W.I.S.E. – CSI 300 China Tracker (กองทุนรวมหลัก)
มีนโยบายเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี CSI 300 โดยจะลงทุนใน A Shares Access Products (AXPs) เท่านั้น เพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่มีลักษณะในด้านต่างๆ ได้แก่ มูลค่าตลาด ประเภทอุตสาหกรรมและลักษณะการลงทุนพื้นฐาน (fundamental investment characteristics) ที่คล้ายกับส่วนประกอบของดัชนี CSI 300 โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มตัวแทน (Representative Sampling Strategy)

CSI 300 Index คืออะไร

- เป็นดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้น A-Shares 300 หุ้น ซึ่งจดทะเบียนอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น และ/หรือ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยคัดเลือกจากหุ้นทั้งหมดกว่า 1,841 หลักทรัพย์ และมีมูลค่าตลาดกว่า 3,126 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2010)*
- หุ้น 300 หลักทรัพย์นี้ เป็นตัวแทนประมาณ 60% ของมูลค่าตลาดรวมของทั้งสองตลาดหลักทรัพย์**
- บริหารโดย China Securities Index Co., Ltd. ซึ่งก่อตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้**
ที่มา : *Wind, CLSA Asia-Pacific Market,**www.boci-jpru.com.hk

นโยบายการจ่ายเงินปันผล มี
วันที่จดทะเบียน 17 พฤศจิกายน 2010
มูลค่าขั้นต่ำการลงทุน(IPO) 10,000 บาท
วันจดทะเบียนใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย 22 พฤศจิกายน 2010


http://www.gehoben.net/ktam/th/etf/Default.aspx